โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รู้จัก Magic Time ของการใช้ชีวิต แล้วอายุจะเป็นเพียงตัวเลข

FWD

อัพเดต 18 ธ.ค. 2562 เวลา 03.38 น. • เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2562 เวลา 03.35 น. • FWD Thailand

ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ สำคัญแค่ว่าคุณมีความสุขแค่ไหนในการใช้ชีวิตในแต่ละวันมากกว่า เชื่อมั้ยว่าการที่เรามีความสุขในการใช้ชีวิต มันทำให้คุณดูเด็กกว่าอายุจริง และยิ่งไปกว่านั้นการรู้จัก Magic Time ของการใช้ชีวิต ว่าช่วงเวลาไหน เหมาะที่จะทำอะไรให้ดีต่อร่างกาย จนคุณจะลืมนับไปเลยว่าตอนนี้อายุเท่าไหร่ เพราะหลักฐานที่แสดงออกมามันจะทำให้คุณเห็นว่า Forever Young มันเป็นยังไง 

รู้หรือไม่ว่า…เวลาไม่ได้มีไว้แค่บอกเวลา แต่เวลามันยังสามารถชี้วัดสุขภาพของเราได้ด้วย เพราะการดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์มากที่สุด หรือการนอนให้ดีที่สุด ไม่ใช่เวลาไหนก็ได้ เนื่องจากกลไกของร่างกาย และช่วงเวลานั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างน่าทึ่ง เรามาดู Magic Time ของการใช้ชีวิตกันเถอะ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ กับระบบ “นาฬิกาชีวิต” ที่เป็นระบบการทํางานในร่างกายของเรา มีที่ก็วงจรการเข้างานของอวัยวะต่าง ๆ อย่างเป็นระบบระเบียบ… แต่บางครั้งบางทีการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน กลับส่งผลต่อนาฬิกาชีวิต ทำให้เกิดผลกระทบระบบการทํางานของอวัยวะต่าง ๆ อย่างใหญ่หลวง จึงก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาอย่างคาดไม่ถึงนั่นเอง แต่หากเรารู้สักนิดว่านาฬิกาชีวิตมีกลไกอย่างไร เราก็จะสามารถบริหารเวลาชีวิตได้ดีขึ้น ด้วยข้อมูลเวลาดังนี้

ตื่นได้แล้ว: 03.00 - 05.00 ที่เขาบอกกันไว้ว่าให้ตื่นเช้าๆ มารับอากาศบริสุทธิ์ นั้นไม่ใช้คำพูดหลอกเด็กเพื่อให้คุณตื่นเช้าขึ้นเพียงเท่านั้น แต่ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ปอดทำหน้าที่ฟอกเลือดได้อย่างเต็มที่ ทำให้พร้อมแจกจ่ายไปยังเซลล์ต่าง ๆ ให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอ เป็นช่วงเวลาของปอดจะได้โชว์พาวเวอร์ ร่างกายก็จะเตรียมพร้อมรับการตื่นนอนของคุณเพื่อ มารับอากาศยามเช้าให้เต็มปอด

สุขขาเรียกหาแล้วนะ: 05.00 - 07.00

ใครชอบปวดท้องเข้าห้องน้ำเวลานี้ หรือมีอันต้องตื่นมาเวลานี้เพราะปวดท้องเข้าห้องน้ำบ้าง เวลาเป็นของลําไส้ใหญ่…  เราจึงควรตื่นมาขับถ่ายกันดีกว่า! และเมื่อตื่นนอนแล้ว ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย เวลาตอนนี้จึงเหมาะมากๆ ในการเอาของเสียออกจากร่างกาย เพราะถ้าเราไม่ขับถ่ายออกมา ร่างกายจะดูดซึม ของเสียเข้าสู่ร่างกายกลับเข้าไปอีกรอบ ส่งผลกระทบมากมาย เช่น  เป็นสิว ผิวหนังไม่กระจ่างใส ท้องผูก แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ริดสีดวงทวาร ไปจนถึงเสี่ยงเป็นมะเร็งลําไส้

กินข้าวเช้าได้แล้ว: 07.00 - 09.00

อย่าไปโกรธคนที่บังคับคุณให้กินอาหารเช้าเลย เพราะเวลาตอนนี้เป็นเวลาของกระเพาะอาหาร… มาทานอาหารเช้ากันดีกว่า เพราะเวลานี้เป็นช่วงที่กระเพาะอาหารจะแข็งแรง สามารถย่อยอาหาร และดูดซึมได้ดีที่สุด ถ้าเราไม่ทานอาหาร กระเพาะ และม้ามจะอ่อนแอ ได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ เลือดที่จะไปเลี้ยงสมองอาจไม่พอ มีผลโดยตรงต่อการจดจำ สมาธิ และในระยะยาวอาจจะอ้วนได้

เริ่มงานได้! : 9.00 - 11.00
เป็นเวลาที่ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พร้อมทำงาน อวัยวะอย่างม้าม และตับอ่อนได้โชว์พลัง ดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ จากอาหารเช้าที่เราได้ทานเข้าไป สารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทําให้ร่างกายสดชื่น สมองทํางานได้ดี

อย่าลืมมื้อกลางวัน: 11.00 - 13.00

ทานข้าวเที่ยงแบบชิลล์ ๆ ให้ร่างกายได้พักจากความเครียด ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาของระบบหัวใจ ที่ทําหน้าที่ในการสูบฉีดเลือด พร้อมนำสารอาหารไปเลี้ยงทั้งร่างกาย ช่วงนี้ระดับความดันเลือดในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรเครียด ทําจิตใจให้สบาย ผ่อนคลายไปกับช่วงเวลาของการพัก

พักกินไว้ก่อน : 13.00 - 15.00

ยังอิ่มๆ จากมื้อเที่ยงอยู่เลย แนะนำพักการกินเอาไว้ก่อนให้ลำไส้เล็กได้ทำงานอย่างเต็มที่ อย่าเพิ่งทานของจุกจิก เพราะจะเป็นการรบกวนการทํางานของลําไส้เล็ก ปล่อยให้ลำไส้เล็กได้ย่อย แยกแยะ และดูดซึมอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิดที่เราทานเข้าไป  ให้เขาได้ทําหน้าที่สร้างกรดอะมิโน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างเซลล์สมอง ดังนั้นเวลานี้สมองซีกขวาทํางานดี ทั้งเรื่องความจํา จินตนาการ

ดื่มน้ำบ่อยๆ : 15.00 - 17.00 ช่วงนี้ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะเป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ ที่จะกําจัดของเสียออกจากร่างกาย อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะจะทําให้ปัสสาวะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด มีผลในเรื่องความจํา ไทรอยด์ รวมทั้งระบบสืบพันธุ์ แถมยังจะทําให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบอีกด้วย

อย่าเพิ่งรีบง่วงกันไป : 17.00 - 19.00
พระอาทิตย์เพิ่งจะตกดิน เรายังมีเวลาชีวิตเหลืออยู่อีกเยอะ อย่างเพิ่งรีบนอน เพราะจะทําให้ไตทํางานหนัก เป็นช่วงที่ไตทําหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากเลือด และรักษาสมดุลในร่างกาย ควรหากิจกรรมทำก่อน เช่น การออกไป Hangout ไปช้อปปิ้ง กินอาหารกับเพื่อนๆ เพื่อให้ร่างกายสดชื้นขึ้น แอคทีฟ เพิ่มความดันเลือด แถมช่วยให้ผิวสดใสแข็งแรง

Relaxing time: 19.00 - 21.00

Golden time สุดท้ายก่อนที่จะพาตัวเองเข้านอน ช่วงเวลานี้ร่างกายต้องการความสงบ หยุดนิ่ง เตรียมพร้อมก่อนเข้านอน จึงไม่ควรทําอะไรที่ตื่นเต้น หรือใช้พลังงานเยอะ เช่น ออกกําลังหนัก ๆ หรือกินอาหารจนแน่นท้อง เพราะจะทําให้คุณนอนไม่หลับ อีกทั้งช่วงงนี้เป็นช่วงเวลานี้มีความสําคัญในการทํางานของระบบ หมุนเวียนเลือด และส่งอาหาร ออกซิเจน เม็ดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ได้เวลานอนแล้วนะ*! : 21.00 - 23.00 *

ได้เวลานอนแล้วนะ เพราะถึงเวลาที่ระบบหายใจ , ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย เตรียมพร้อมสู่การปรับสมดุลในร่างกาย อุณหภูมิในร่างกายจะค่อย ๆ ลดลง ร่างกายเริ่มหลั่งเมลาโทนิน ช่วงนี้จึงควรนอนหลับพักในช่วงเวลานี้

*เวลาของถุงน้ำดี  : 23.00 - 01.00 *

เหล่านกฮูกที่ยังไม่นอน หรือเพิ่งเคลียงานเสร็จ อยากแนะนำให้จิบน้ำในช่วงเวลานี้เอาไว้ เพราะช่วงเวลานี้จะมีผลกับถุงน้ำดี ซึ่งถุงน้ำดีนั้น เป็นเหมือนถุงสํารอง เก็บน้ำดีที่ได้จากตับ ส่งไปช่วยย่อยไขมันในลําไส้เล็ก

เวลาของตับ*… แค่หลับให้สนิทก็เด็กกว่าวัย : 01.00 - 03.00 *

Good Night หลับพักผ่อนให้เต็มที่ ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ต้องพักผ่อน เพื่อให้เลือดไหลเวียนมาที่ตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตับจะหลั่งสารที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคออกมา ทำให้หน้าเราดูอ่อนกว่าวัย ถ้าใครนอนไม่หลับในช่วงเวลานี้จะทำให้เลือดในตับน้อย ส่งผลให้ตอนเช้าจะมีอาการเวียนหัว อ่อนเพลีย

ดูแลร่างกายดีๆ ก็เฮลตี้ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมให้คุณได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องสุขภาพ เราดูแลให้คุณสบาย เพื่อให้คุณได้มีไลฟ์สไตล์ออกไปใช้ชีวิตได้แบบซูเปอร์ กับซูเปอร์ แคร์ ประกันสุขภาพใหม่ จากเอฟดับบลิวดี https://fwdth.co/Live-magictime-oct19

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0