โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Ksher Payment ชี้ 3 เทรนด์หลักมาแรง “Cashless-Paperless-Digitalize”กลยุทธ์มัดใจจีนสาย FIT

สยามรัฐ

อัพเดต 16 ก.ย 2562 เวลา 10.52 น. • เผยแพร่ 16 ก.ย 2562 เวลา 10.51 น. • สยามรัฐออนไลน์
Ksher Payment ชี้ 3 เทรนด์หลักมาแรง “Cashless-Paperless-Digitalize”กลยุทธ์มัดใจจีนสาย FIT

Ksher Payment (เคเชอร์ เพย์เมนท์) บริษัทฟินเทคชั้นนำ ได้เผยข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่วางแผนเดินทางและท่องเที่ยวด้วยตนเอง (Foreign Individual Tourism หรือ FIT) ที่เป็นแนวโน้มใหม่ของนักท่องเที่ยวจีน และเป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีพฤติกรรมการจับจ่ายแบบไร้เงินสด โดยจะใช้ e-wallet ผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมของชาวจีน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay และมีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล (Digital)

ทั้งนี้พร้อมหาข้อมูล การจองโรงแรม การเข้าใช้บริการโรงแรม การชำระเงิน ไปจนถึงการบอกต่อหรือแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวของผ่านโลกโชเชียล พร้อมแนะธุรกิจโรงแรมไทยควรปรับตัวทั้งด้านนวัตกรรมการรับชำระเงินแบบดิจิทัล และนวัตกรรมด้านบริการช่วยปรับมาตรฐานบริการ และภาษา เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการได้มากขึ้นและบอกต่อความประทับใจต่อการใช้บริการของโรงแรม ซึ่งจะส่งผลให้โรงแรมประสบความสำเร็จ ครองใจนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ต่อไป

เจสัน ลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เคเชอร์ เพย์เมนท์ จำกัด ได้ร่วมแนะนำข้อมูลพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT และแนวทางการการตลาดแบบดิจิทัลในหัวข้อ “Strategies for Conquering the China FIT Market” ภายในงานสัมมนา “Digital Marketing for Hotel Business: Critical Tactics for 2020” จัดโดยสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและนักการตลาดในธุรกิจโรงแรมจากทั่วประเทศร่วมรับงานกว่า 150 คน

โดยจากข้อมูลพบว่านักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ชาย 48% และผู้หญิง 52% ซึ่งใกล้เคียงกัน โดยช่วงอายุระหว่าง 25-30 ปี มีสัดส่วน 28% เป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยอายุน้อยกว่า 24 ปี (22%) และช่วงอายุ 31-35 ปี (20%) ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกว่า 54% จบระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหญ่กว่า 62% เดินทางมาจากเมืองรอง (2nd Tier city) ของจีน อาทิ เฉิงตู ฉงชิ่ง หางโจว ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากเมืองใหญ่ (1st Tier city)ของจีนได้แก่ เซี่ยงไฮ้, กวางเจา, ปักกิ่ง และเซินเจิ้น มีเพียง 16% เท่านั้น

ขณะที่เป็นนักท่องเที่ยวที่มีใช้จ่ายสูง คือประมาณ 8,000 หยวนต่อทริปต่อคน มากถึง 47% และ 6,000 หยวนถึง 46% ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจท่องเที่ยวอันดับแรกคือ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ 91% ซึ่งมากกว่าเรื่องของงบประมาณที่มีนักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญเพียง 73% นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่ม FIT มีเทรนด์ที่ชัดเจน 3 ข้อ คือ “Cashless – Paperless – Digitalize” ที่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมควรศึกษาและปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนได้อย่างครบถ้วน และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการต่อไป

สำหรับข้อแรก Cashless ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนกว่า 64% นิยมชำระเงินโดยใช้ e-wallet ผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมของชาวจีน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay และอีกกว่า 40% พบว่าไม่พกเงินสดเลย ข้อ 2 Paperless นักท่องเที่ยวจีนกว่า 92% ใช้โทรศัพท์มือถือ และใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงต่อวันบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมหาข้อมูลการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นข้อมูลโรงแรมที่พัก การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง อ่านรีวิวต่างๆผ่านโมบายล์แอปพลิเคชัน ไม่ใช่การศึกษาจากหนังสือคู่มือการเดินทาง,โบรชัวร์โรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว หรือการสอบถามจากพนักงานโรงแรมเหมือนแต่เดิมและ

ส่วนข้อสำคัญประการสุดท้าย Digitalize นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัลแบบครบวงจร ตั้งแต่การหาข้อมูล การจองโรงแรม การเข้าใช้บริการโรงแรม การชำระเงิน ไปจนถึงการบอกต่อหรือแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวของผ่านโลกโชเชียล

“ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ต้องการเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ควรเร่งปรับตัว โดยเริ่มจากสิ่งสำคัญที่สุดคือ การเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินด้วย e-wallet ผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมของชาวจีน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay จากนั้นจะสามารถเพิ่มเติมนวัตกรรมด้านการชำระเงินที่สะดวกมากขึ้นเช่น บริการ Remote Collection ผ่านทางแอปพลิเคชัน Ksher Boss ซึ่งโรงแรมสามารถส่งข้อมูลโรงแรม พร้อมรายละเอียดการชำระเงินแบบทางไกล และลูกค้าสามารถชำระเงินได้ง่ายบนโมบายล์แอปฯ WeChat ได้เลย หรือบริการ Pre-Authorization การชำระเงินแบบวางมัดจำด้วยการสแกน QR Code เมื่อลูกค้า Check out ก็สามารถตรวจสอบและหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง แล้วคืนเงินมัดจำให้กับลูกค้าได้อย่างสะดวก เป็นต้น”

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ไม่ถนัดที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษด้วยการ ‘พูด’ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้บริการของโรงแรม Ksher จึงได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่นำเสนอนวัตกรรมด้านบริการ เพื่อปรับรูปแบบการสื่อสาร โดยเชื่อมโมบาลย์แอปฯของนักท่องเที่ยวจีน เข้ากับระบบปฏิบัติการของโรงแรมให้สื่อสารถึงกันได้สะดวกด้วยภาษามาตรฐานผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด ช่วยลดการสื่อสารที่ผิดพลาด และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า เช่น บริการ Smart Hotel Butler, Mobile Menu และ Multi-Language UI อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลของนักท่องเที่ยวมาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์และการวางแผนต่อไปได้อีกด้วย

โดยธุรกิจโรงแรมและร้านค้าที่มีความสนใจใช้บริการโซลูชันด้านธุรกรรมการเงินจาก Ksher Payment เพื่อ
ต่อยอดธุรกิจกับลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวไทย สามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดบริการแรกเข้า โดยติดต่อLine: @ksherservice, Facebook: KsherThailand และ www.kasher.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0