โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“บลจ.” มองธีม “E-Commerce” แค่สะดุดระยะสั้น...แนะ ‘ทยอยเก็บ’ หวังผลระยะยาว !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 07 ส.ค. 2566 เวลา 06.00 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. 2564 เวลา 15.17 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ได้สร้างผลกระทบเชิงลบที่รุนแรงต่อหลากหลายธุรกิจ โดยบางธุรกิจก็เข้าขั้นวิกฤตหรือถึงขั้นที่ต้องปิดกิจการให้เราได้เห็นมากมายอยู่ทุกวี่วัน
ทำให้การปรับตัวของผู้ประกอบการต้องเข้าสู่ช่องทาง “ออนไลน์” มากขึ้น หรือศัพท์ทางธุรกิจที่เราคุ้นหูอย่าง “อีคอมเมิร์ซ (Electronic Commerce)” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาการซื้อขายช่องทางดังกล่าวก็ได้เติบโตเป็นอย่างมาก
จนทำให้ราคา “หุ้น e-commerce” รายใหญ่ในตลาดโลกอย่าง Amazon หรือ Alibaba มีปรับตัวขึ้นมาก้าวกระโดด ด้วยพฤติกรรมของคนที่หันมาช้อปปิ้งออนไลน์ในยามที่เกิดโรคระบาดเช่นนี้
ซึ่งในมุมมองนักลงทุนก็อาจสงสัยว่าด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมา “ช้อปปิ้งออนไลน์” เทรนด์นี้จะมีความต่อเนื่องไปได้อีกนานแค่ไหนและโอกาสการลงทุนในหุ้น e-commerceจะยังสามารถสร้างผลตอบแทนในอนาคตได้หรือไม่
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงขอโอกาสนำเสนอมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญสายงานบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มาแชร์ถึงความน่าสนใจของ “หุ้น อีคอมเมิร์ซ” กันในครั้งนี้

“อีคอมเมิร์ซ”…หนึ่งในกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่อง

“หุ้น e-commerce” จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นที่มาในกลุ่มเทคโนโลยี เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นในกลุ่มนี้ กองทุนกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกก็จะมีบางส่วนที่ลงทุนในหุ้น e-commerce เช่นกัน หากนโยบายกองทุนเปิดให้ลงทุนได้ แต่ก็มีบางกองทุนที่โฟกัสเจาะลงที่จะลงทุนใน “ธีม e-commerce” เช่นเดียวกัน
โดย “คมสัน ผลานุสนธิ” กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด ได้ให้มุมมองว่า กลุ่ม “หุ้นอีคอมเมิร์ซ” เป็นอีกหนึ่งกลุ่มน่าสนใจและสามารถลงทุนได้ในระยะยาว เนื่องจากเป็นหนึ่งในไม่กี่กลุ่มธุรกิจที่ประโยชน์มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

(คมสัน ผลานุสนธิ)

“ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจดังกล่าวก็ยังไปต่อได้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสพฤติกรรมการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงมาสู่ซื้อขายทางออนไลน์หรือทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้นและเมื่อเห็นถึงความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าบางรายการได้ดี จึงทำให้ทางอีคอมเมิร์ซก็ยังเป็นที่ผู้บริโภคยังใช้บริการที่ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเปิดเมือง”

แนวโน้มธุรกิจยังไปต่อได้…แม้จะโดนเบรกในบางช่วง

โดยกลุ่มหุ้นดังกล่าวอย่าง Amazon และ Sea Limited ก็เริ่มมีแนวโน้มที่จะกลับมาเพอร์ฟอร์มได้ดีขึ้น หลังจากที่ราคาหุ้นเกิดการชะลอหรือถูกหยุดความร้อนแรงลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากกระแสข่าวการเปิดเมืองของแต่ละประเทศออกมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าผู้บริโภคจะกลับไปจับจ่ายใช้สอยช่องทางอื่น
“แต่สุดท้ายพฤติกรรมของผู้บริโภคก็ยังคงใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซในการซื้อสินค้าบางประเภทที่ให้ความสะดวกสบายมากกว่า แต่อย่างไรก็ดีตามช่องทาง ‘ออฟไลน์’ ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเพราะด้วยพฤติกรรมคนยังคงมีความต้องการที่จะเห็นสินค้าหรือจับต้องสินค้า”

แนะนักลงทุน “ทยอยเก็บ”…หวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว

สำหรับนักลงทุนที่สนใจหรือกำลังมองหาโอกาสการลงทุนก็อยากแนะนำว่า“ทยอยสะสม” หรือให้น้ำหนักแก่หุ้นกลุ่มอีคอมเมิร์ซได้ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวก็เป็นหนึ่งใน “ธีมดิสรัปชั่น” จึงมั่นใจได้ว่าเทรนด์ธุรกิจไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็จะเกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงมาสู่พฤติกรรมใหม่ๆ โดยนักลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะยาวหรืออยากสร้างผลตอบแทนในอนาคตก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

ระยะสั้นสะดุดจาก ‘การเปิดประเทศ-ราคาตึงตัว’ หลังวิ่งมามากปีก่อน…มั่นใจดีมานด์ “E-Commerce” ยังโตต่อเนื่อง

ด้าน “บลจ.วรรณ จำกัด” มองว่าหุ้นกลุ่ม E-commerce” ยังคงเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้นจากการ “ทยอยเปิดเมือง” ของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในสหรัฐฯและภูมิภาคยุโรป ที่มีการใช้วัคซีนต้าน COVID-19 กับประชาชนอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากการเปิดเมืองมีความน่าสนใจกว่าหุ้นกลุ่ม E-Commerce จาก Valuation โดยเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มขึ้น หลังผ่านวิกฤติ COVID-19 มีแนวโน้มช่วยหนุนผลการดำเนินงานของหุ้นกล่ม E-Commerceในระยะถัดไป เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเฉพาะในกลุ่ม ‘ตลาดพัฒนาแล้ว (DM)’ ที่มีแนวโน้มเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (Pent up demand)
ประกอบกับการเกิดวิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมาช่วยหนุนให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และมีการซื้อสินค้าและบริการผ่าน E-Commerce มากขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่ม ‘Online Travel Agency (OTA)’ ที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นหลังการเปิดเมือง ยังคงมีแนวโน้มช่วยหนุนผลประกอบการของหุ้นกลุ่มนี้
“อย่างไรก็ตาม ด้วย Valuation ของกลุ่ม ‘E-Commerce’ ที่ค่อนข้างตึงตัวโดยเปรียบเทียบ จากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตลอดช่วงที่เกิดวิกฤติ COVID-19 ส่งผลให้ในระยะสั้นราคาของหุ้นกลุ่ม E-Commerce มีแนวโน้มผันผวน แนะนำให้นักลงทุนที่ต้องการลงทุนมองเป็นระยะยาวเพื่อได้รับผลตอบแทนจากการเติบโตของหุ้นกลุ่ม E-Commerce”
“ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ถึงแม้จะเป็นธุรกิจที่ไม่ได้รับความนิยมนักในช่วงก่อนหน้า แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ก็ได้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้การซื้อขายออนไลน์มากขึ้นจึงเป็นปัจจัยเร่งให้ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ในมุมมองการลงทุนก็คงปฏิเสธหรือมองข้ามไปไม่ได้เลย แม้ในอนาคต COVID-19 จะหมดไปแล้วก็ตาม”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0