โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

JAS เคาะซื้อไม่ทัน...ต้องเสียใจไหม?

efinanceThai

เผยแพร่ 31 มี.ค. 2563 เวลา 06.47 น.

หากพูดถึงหุ้นที่บวกสวนตลาดขึ้นมาได้ก่อนที่ตลาดจะฟื้นตัว JAS น่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนพูดถึง ซึ่งหากนับตั้งแต่ราคาหุ้นเริ่มเป็นขาขึ้นที่ 4.12 บาท มาแตะจุดสูงสุดของรอบเช้าวันนี้ที่ 5.10 บาท ถือว่าบวกไปแล้วกว่า 23.7% ส่วน JAS-W3 บวกจาก 0.57 บาท มาเป็น 1.47 บาท เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 157.8% ภายในเวลา 12 วัน แต่คำถามก็คือพื้นฐานหุ้นดีถึงขั้นว่า ซื้อไม่ทันแล้วต้องมานั่งเสียดายหรือเปล่า?

วันนี้ราคาหุ้น บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ยังปรับตัวเป็นขาขึ้นต่อ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดของรอบเช้าที่ 5.10 บาท ก่อนมาปิดตลาดที่ 4.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ +6.52% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นเพิ่ม 241.32% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

ส่วน JAS-W3 ทำจุดสูงสุดรอบเช้าไปที่ 1.47 บาท ก่อนมาปิดตลาดรอบเช้าที่ 1.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท หรือ 37.50% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 165.67% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

*** Work From Home ปัจจัยดันราคาหุ้น แต่ดีจนราคาต้องพุ่งขนาดนี้ไหม?

จากการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ แม้จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบ้านจะเพิ่มขึ้นมาก แต่ในเรื่องรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นกลับไม่ได้มากอย่างที่คิดไว้เลย โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด เป็นสถานการณ์เชิงบวกกับ JAS ทำให้ยอดลูกค้าอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 15 - 20% แต่น่าจะคิดจากฐานลูกค้าใหม่ที่เฉลี่ยราว 5 หมื่นรายต่อไตรมาส

ดังนั้นลูกค้าใหม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติไม่เกิน 1 หมื่นราย ซึ่งหากติดตั้งแล้วใช้งานต่อเนื่อง บนสมมติฐานว่าจะมี ARPU อยู่ที่ 500 บาท เท่ากับว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 60 ล้านบาทเท่านั้น

ดังนั้นสำหรับ JAS คาดว่ารายได้จะเร่งตัวไม่เพียงพอกับต้นทุนเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น จากการรับรู้ภาระค่าเช่าสายไฟเบอร์ ที่ขายให้กับ JASIF เพิ่มเติมระหว่างงวดไตรมาส 4/62

ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการปีนี้จะขาดทุน 1.3 พันล้านบาท

แต่ราคาหุ้นก็อาจปรับตัวขึ้นในช่วงใกล้ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 20 เม.ย. 63 ได้ เพราะมีเงินปันผลพิเศษถึง 1.26 - 1.50 บาท/หุ้น

*** ส่วนประเด็นการเป็นพันธมิตรกับ DTAC และ HBO ยังไม่ได้หนุนธุรกิจเร็วๆนี้ 

ก่อนหน้านี้ผู้บริหารเชื่อว่ารายได้ในปี 67 จะปรับขึ้นไปแตะถึง 5 หมื่นล้านบาท จากการร่วมกับพันธมิตรพัฒนาธุรกิจ

นางสาวสายใจ คีตสิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS ระบุว่าจากการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งการได้รับสิทธิ์คอนเทนต์จาก HBO ความร่วมมือกับ DTAC รวมถึงผู้ประกอบการบรอดแบนด์จากเกาหลีใต้อย่าง KT Corporation จะทำให้ในปี 67 มีลูกค้าอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านรายได้ และมีลูกค้า 3BB TV เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านราย ส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดีในประเด็นนี้ บล.เอเซียพลัส มองว่าผลบวกจากการดำเนินธุรกิจร่วมกับ DTAC และ HBO จะยังไม่ได้อานิสงส์มากในช่วง 1 - 2 ปีแรก แม้การร่วมมือกับ DTAC จะทำให้มีบริการครบวงจรเช่นเดียวกับคู่แข่ง แต่ก็เป็นเพียงการรักษา ARPU ไม่ให้ลดลงเท่านั้น ส่วนธุรกิจ IPTV ก็เข้าตลาดหลังคู่แข่งนานมาก ทำให้รายได้อาจโตจำกัด

*** JAS-W3 อาจวิ่งแรง เพราะอยากได้ปันผล?

จากการสำรวจพบว่า JAS-W3 สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพได้ในวันนี้ 31 มี.ค. 63 ซึ่งหลังใช้สิทธิแปลงสภาพแล้วจะยังมีสิทธิได้รับปันผลพิเศษจากงวดปี 62 ที่จะขึ้น XD ในวันที่ 20 เม.ย.นี้อยู่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการนำไปใช้สิทธิรอบสุดท้าย(ครบ 5 ปี) ในวันที่ 3 ก.ค.63

*** รวมๆแล้ว ไม่มีใครแนะนำให้ซื้อ

อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำว่าไม่ควรเข้าไปลงทุนในหุ้น JAS และควรอาศัยจังหวะราคาหุ้นขึ้นเป็นจังหวะขายออกมาอีกด้วย

บล.เอเซีย พลัส แนะนำ "ขาย" ราคาเหมาะสม 4 บาท แม้มีปันผลพิเศษ แต่ให้น้ำหนักกับผลประกอบการที่ยังแย่อยู่มากกว่า

บล.กสิกรไทย แนะนำ "ขาย" ราคาเหมาะสม 5.50 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ เลี่ยงลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินระยะยาว มีแนวโน้มแย่ลงตามผลการดำเนินงาน

ราคาหุ้น JAS กับการปรับตัวขึ้นแบบปริศนาเป็นของคู่กันมานานแล้ว และไม่สามารถอธิบายด้วยหลักเหตุผลได้ทั้งหมดด้วย ดังนั้นแม้นักวิเคราะห์จะแนะนำให้อยู่ห่างๆ แต่หากนักลงทุนสามารถจับจังหวะการขึ้นลงของหุ้นตัวนี้ได้ ก็อาจใช้ความกล้าเข้าไปเก็งกำไรได้เหมือนกัน!

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0