โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

J.P. Livington ผู้มีอิสระภาพทางการเงิน ตั้งแต่อายุ 28 ปี

StockRadars

อัพเดต 27 พ.ค. 2563 เวลา 09.28 น. • เผยแพร่ 27 พ.ค. 2563 เวลา 09.28 น.

เพียง 7 ปี ที่ใช้เวลาทำงาน ควบคู่ไปกับการมีวินัยในการออมและลงทุน เธอก็มีเงินสำรองมากพอที่จะเกษียณ ในขณะที่อายุเพียง 28 ปี

จากผู้เขียนบทความ The Money Habit ในนามปากกา J.P. Livington ได้เล่าถึงประสบการณ์และทัศนคติเรื่องการเงินของเธอตั้งแต่อายุยังน้อย

ซึ่งตอนเธออายุ 12 ปี ได้ดำเนินชีวิตเรื่องการออมตามหนังสือยอดนิยม “Rich Dad, Poor Dad” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยจุดประกายนิสัยและทัศนคติของเธอในเรื่องการออมและการลงทุน

เธอจึงรู้ตัวว่า นอกจากเรียนจบมหาวิทยาลัยเร็วกว่าปกติ 1 ปี จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากมายแล้ว ยังทำให้เธอได้เริ่มงานและสามารถสร้างรายได้ก่อนคนอื่นได้ด้วย

นั่นคือหลังจากเรียนจบ เธอเริ่มเข้าสู่ชีวิตทำงานที่บริษัทลงทุนแห่งหนึ่ง โดยได้รับเงินตอบแทนราว $60,000 ต่อปี และเมื่อรวมกับเงินโบนัสประจำปีแล้ว ทำให้มีรายได้ $100,000 ต่อปี (ราว 3 ล้านบาท)

ซึ่งในช่วงการทำงาน 7 ปี เธออดออมอย่างมีวินัย โดยตัดรายได้ 70% ออกมาเป็นเงินออมและลงทุน…และเธอบริหารและเก็บออมจนมีเงินก้อน $2.25ล้าน หรือประมาณ 71 ล้านบาทภายใน 7 ปี

โดยหลักการที่สำคัญมากคือมีวินัยในการแบ่งรายได้ออกมาก่อน แล้วสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามที่คุณถนัด

ในกรณี J.P. Livington นั้นจะพบว่าเงินที่มี 40% มาจากการลงทุน และ 60% ได้มาจากการออม

ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะเกษียณได้ที่อายุ 28 ปี

เธอกล่าวว่าเพื่อให้การออมบรรลุเป้าหมาย ควรเริ่มมองการใช้จ่ายเป็นหน่วยของ “เวลา” แทนที่จะมองเป็นเงิน

เช่น หากคุณจะซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องที่มีมูลค่า 800 ให้มองว่ามันมีค่าเท่ากับการทำงาน 60 ชั่วโมงของชีวิตคุณ

ซึ่งมันจะช่วยทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น ว่าของสิ่งนี้มีค่าพอที่คุณควรจะลงทุนกับมันหรือไม่

ถึงแม้ว่า เธอจะสามารถทำเงินได้มากมาย แต่เธอก็ยังคงใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อให้เธอนั้นมีเงินออมจำนวนมากในแต่ละปี ยกตัวอย่างเช่น การทำรายรับรายจ่ายและการสร้างนิสัยการออมอย่างเคร่งครัด

โดยแนวคิดนี้เธอได้มาจากหนังสือของ Vicki Robin และ Joe Dominguez ที่มีชื่อว่า “Your money or Your life”

เพื่อให้เห็นขั้นตอนการออมที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น คุณหาให้ได้ว่ารายจ่ายที่มากที่สุดของคุณนั้นเกี่ยวกับเรื่องหรือสิ่งใด

และเมื่อคุณสามารถหาคำตอบได้แล้วคุณ ก็ควรหาวิธีเพื่อลดรายจ่ายในเรื่องนั้น

และเมื่อคุณทำแล้วพบว่า คุณมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ก็ขอให้คุณใช้ชีวิตอย่างพอประมาณต่อไป

สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่าเธอจะมีเงินออมหลายล้านดอลลาร์ แต่เธอและครอบครัวของเธอก็เลือกที่จะอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็ก

และกล่าวว่า “หากคุณอยากออมเงินมากกว่าครึ่งนึงของรายได้ คุณควรที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างพอเพียงและไม่เกินตัว”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0