เอเจนซีส์ - ผู้นำสหรัฐฯแถลงทางทวิตเตอร์วันเสาร์(22 มิ.ย) เลื่อนกำหนดการล้อมจับผู้อพยพเข้าเมืองผิดฏำหมายครั้งใหญ่ทั่วประเทศที่มีกำหนดต้องจับกุมคนราว 2,000 ครอบครัว ประกาศให้ 2 พรรคใหญ่ร่วมหาทางออกให้กำหนดระยะเวลา 2 สัปดาห์
หนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโกครอนิเคิลรายงานวันเสาร์(22 มิ.ย)ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ในบ่ายวันเสาร์(22)ว่า "ตามการร้องขอของพรรคเดโมแครต" เขาตัดสินใจที่จะเลื่อนกำหนดปฎิบัติการขับออกนอกประเทศครั้งใหญ่เป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่้อให้โอกาสแก่ทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันสามารถหาทางออกของ 2 พรรคร่วมในปัญหาการให้ที่ลี้ภัยและช่องโหว่พรมแดนทางใต้"
แต่อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เตือนว่า "หากไม่เช่นนั้น การเนรเทศครั้งใหญ่จะเริ่มต้น!"
การประกาศเกิดขึ้น 1 วันก่อนสำนักงานการเข้าเมืองสหรัฐฯและการบังคับใช้ศุลกากร ICE (U.S. Immigration and Customs Enforcement) จะเริ่มต้นปฎิบัติเข้าบุกกวาดต้อนครอบครัวผู้อพยพที่หลบซ่อนอยูในเมืองใหญ่ๆทั่วสหรัฐฯ รวมถึง เมืองซานฟรานซิสโก
รายการมอร์นิงโจ คุยข่าวยามเช้าทางสถานี MSNBC กล่าวในเช้าวันจันทร์(24)ว่า มีการกล่าวโทษสื่อมวลชนสหรัฐฯว่าได้รั่วไหลข้อมูลตั้งแต่วันศุกร์(21) ถึงปฎิบัติการกวาดล้าง ทางมอร์นิงโจชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ต้องการให้ผู้ที่จะถูกเข้าบุกจับรู้ตัว
ซานฟรานซิสโกครอนิเคิลรายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดการตัดสินใจเปิดเผยว่า ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต และเป็น สส.จากเมืองซานฟรานซิสโก แนนซี เพโลซี ได้โทรศัพท์หาผู้นำสหรัฐฯในคืนวันศุกร์(21) ขอให้ทรัมป์ยกเลิกปฎิบัติการกวาดล้างกลุ่มคนเข้าสหรัฐฯผิดกฎหมาย ซึ่งทางเพโลซีแสดงความยินดีในคำสั่งการเลื่้อนกำหนดออกไปของทรัมป์
โดยในแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ เพโลซีกล่าวว่า "เวลาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปฎิรูประบบการเข้าเมืองสหรัฐฯอย่างครอบคลุม" และเสริมต่อว่า "ครอบครัวสมควรต้องอยู่ร่วมกัน"
ทั้งนี้ในวันพุธ(19)ที่ผ่านมา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงาน ICE มาร์ค มอร์แกน (Mark Morgan) แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ทำการควบคุมตัวกลุ่มคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ได้รับคำสั่งสุดท้ายให้ขับออกนอกประเทศจากศาลเข้าเมืองสหรัฐฯ
ซึ่งจากทั้งหมดเกือบ 11,000 เคสที่ได้รับคำสั่งเนรเทศเกิดขึ้นจากการที่ไม่มาปรากฎตัวต่อศาลตามกำหนด มี 232 เคสเกิดขึ้นศาลเมืองซานฟรานซิสโก อ้างอิงจากสำนักงานบริหารด้านการพิจารณาการเข้าเมือง (Executive Office for Immigration Review) หนังสือพิมพ์เมืองซานฟรานซิสโกรายงานว่า กว่า 95% ของครอบครัวผู้อพยพที่ถูกสั่งจากศาลแห่งนั้นได้เข้ามาปรากฎตัวในชั้นการพิจารณาตามกำหนด
นายกเทศมนตรีเมืองโอ๊คแลนด์ที่เป็นหนึ่งในเมืองให้สิทธิคุ้มครองแก่ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ลิบบี้ แชฟ(Libby Schaaf)
"เป็นอีกครั้งที่ทรัมป์กำลังเล่นเกมส์ที่โหดร้ายกับชีวิตของเด็กและครอบครัวเพื่อการเมือง" และกล่าวต่อว่า "ตราบเท่าที่รัฐบาลของเขายังคงคุกคามชุมชนผู้อพยพของพวกเรา ทางโอ๊คแลนด์จะยังคงทำการเตรียมพร้อม เรารู้ในสิทธิของพวกเราและคุณค่า"
แครอล ดันโก(Carol Danko) โฆษกสำหนักงาน ICE กล่าวว่า ถึงแม้จะมีการเลื่อนกำหนดบุกกวาดล้าง แต่ทางเจ้าหน้าที่จะยังคงตามจับกุมต่างด้าวหลบหนีคดีภายในประเทศต่อไปหากว่าทางรัฐสภาคองเกรสไม่ทำการแก้ไขกฎหมาย
การเสียชีวิตภายใต้การถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนสหรัฐฯยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้อพยพวัย 16 ปีเสียชีวิตกลายเป็นเด็กและเยาวชนรายที่ 5 ที่ต้องจบชีวิตลงนับตั้งแต่ธันวาคมปีที่ผ่านมา
NPR สื่อสหรัฐฯรายงานวันพฤหัสบดี(20)ว่า สำนักงานศุลกากรและปกป้องพรมแดนสหรัฐฯ CBP กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ผู้เสียชีวิตเป็นวัยรุ่นชาย แต่ไม่เปิดเผยชื่อ พบไม่ตอบสนองระหว่างการตรวจเช็กตามตารางในเช้าวันจันทร์(17) ที่สถานีเวสลาโก (Weslaco Station) ซึ่งเป็นจุดที่เด็กวัยรุ่นรายนี้ถูกควบคุมตัว พบเข้าถูกจับหลังเดินทางเข้าสหรัฐฯที่ริโอ แกรนด์ แวลลีย์ ( Rio Grande Valley) รัฐเทกซัสเมื่อวันที่ 13 พ.ค และมีกำหนดจะถูกย้ายไปอยู่ในศูนย์ของกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ด้านแผนกการปักหลักถิ่นฐานของผู้ลี้ภัยที่เทียบเท่ากับกระทรวงสาธารณสุขของไทย
และในวันที่ 14 พ.ค หรือ 1 วันหลังจากที่ผู้อพยพวัยรุ่นอายุ 16 ปีเดินทางเข้าสหรัฐฯ พบว่าเป็นวันที่ผู้อพยพอีกรายเสียชีวิตลงเป็นเด็ยอายุแค่ 2 ขวบครึ่ง หลังเด็กน้อยรายนี้เดินทางเข้าสหรัฐฯพร้อมกับครอบครัวเมื่อเมษายน โรงพยาบาลที่รับตัวหนูน้อยระบุว่า เสียชีวิตจากโรคนิวมอเนียและเป็นไข้สูง
มอร์นิงโจรายงานเช้านี้(24)ว่า สภาพการเป็นอยู่ของเด็กผู้อพยพในค่ายกักกันในสหรัฐฯมีสภาพแย่ รัฐบาลทรัมป์ไม่ให้ทั้งสบู่ แปรงและยาสีฟัน หรือแม้กระทั่งผ้าอ้อมสำเร็จรูป และต้องปกคลุมร่างกายเพื่อคลายความหนาวด้วยอลูมินัมฟอยด์จากการนอนบนพื้นคอนกรีตที่เย็น
ทั้งนี้่สื่อฮัฟติงตันโพสต์รายงานก่อนหน้าว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว อัยการประจำกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯออกมาโต้ในศาลเมืองซานฟรานซิสโกอ้างว่า ***รัฐบาลกลางสหรัฐฯไม่สมควรที่ต้องถูกบังคับให้จัดหาสบู่ แปรงสีฟัน หรือแม้กระทั่งเตียงแก่เด็กที่ถูกจับกุมบริเวณพรมแดนติดเม็กซิโก***
อัยการ ซาราห์ ฟาเบียน ( Sarah Fabian) ได้กล่าวต่อศาลอุทธรณ์สหรัฐฯสำหรับแขวงที่ 9 เมืองซานฟรานซิสโก เมื่อวันอังคารที่แล้ว(18)ว่า การที่ต้องบังคับให้เด็กนอนบนพื้นคอนกรีตที่เย็นภายในกรงขังนั้นปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดี
1 ใน 3 คณะผู้พิพากษาได้ฟังคำอ้างของอัยการสหรัฐฯถึงกับอึ้ง โดยผู้พิพากษา วิลเลียม เฟลตเชอร์ ( William Fletcher) ได้กล่าวต่อฟาเียนในกรณีที่ทางรัฐบาลทรัมป์ไม่ยอมให้สบู่แก่ผู้อพยพเด็กมีใจความว่า "…และในกรณีของสบู่ มันไม่ใช่สบู่ใส่น้ำหอมหรูหรา มันเป็นแค่สบู่ ซึ่งสิ่งนี้ดูเหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของความปลอดภัยและการมีสุขอนามัยที่ดี" และถามย้ำว่า "คุณไม่เห็นด้วยกับสิ่งนีั้หรือ"
ส่วนผู้พิพากษา เอ. วอลเลซ ทาชิมา( A. Wallace Tashima) กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ในขอบเขตสามัญสำนึกของคนทั่วไปที่ว่าหากไม่มีสบู่ แปรงสีฟัน ไม่มีผ้าห่ม มันไม่ใช่ความปอลดภัยและมีสุขอนามัยที่ดี โดยเขาถามย้ำฟาเบียนว่า "คุณเห็นด้วยไช่ไหม" ทำให้อัยการฟาเบียนตอบกลับมาว่า "ใช่..บางที"