โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

IMFคาดเศรษฐกิจโลกแกร่งขยายตัวครั้งแรกในรอบ3ปี

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 22 ม.ค. 2563 เวลา 09.40 น.

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสู่ระดับ3.3% ในปีนี้ (2563) จากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 3.4% ในรายงานฉบับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า (2564) สู่ระดับ 3.4% จากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 3.6%

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นการคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ปรับลดลง แต่ไอเอ็มเอฟก็คาดหมายว่าปี 2563 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี คือคาดว่าจะขยายตัว 3.3% เพิ่มจากปี 2562 ที่ขยายตัวเพียง 2.9% ซึ่งเป็นระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินทั่วโลกในปี 2551-2552

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟตั้งสมมติฐานว่า สหรัฐอเมริกาและจีน จะไม่สร้างความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากทั้ง2 ฝ่ายได้ลงนามจัดทำข้อตกลงการค้าเฟส 1 แล้วซึ่งเป็นการยุติการตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเติม นอกจากนี้ ในภูมิภาคยุโรป เชื่อว่าอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ได้อย่างราบรื่นภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้

ขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้สู่ระดับ 6.0% จากเดิมที่คาดไว้ในระดับเพียง 5.8% ขณะเดียวกันได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้สู่ระดับ 2.0% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 2.1%

รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของไอเอ็มเอฟที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.) สะท้อนถึงความหวังเชิงบวกที่มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบเบาบางลงกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หรือสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง นักวิเคราะห์จำนวนมาก รวมทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง มีความคิดเห็นตรงกันว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ประเด็นดังกล่าวจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางในเวที เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (WEF) ที่เมืองดาวอส
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 21-24 มกราคมนี้ สำหรับรายงานของไอเอ็มเอฟ สาเหตุที่เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้า (2564) จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น สะท้อนจากตัวเลขประมาณการการขยายตัวของจีดีพีโลกที่ 3.4% เพิ่มจาก 3.3% ในปีนี้ เนื่องจากมีสัญญาณเชิงบวกว่า อุตสาหกรรมการผลิตและการค้าระหว่างประเทศที่เผชิญแรงกดดันอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ผ่านพ้นช่วงที่ตกตํ่าที่สุดมาแล้ว และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ก็ให้ความหวังในเชิงบวก ประกอบกับมาตรการทางการเงินและการคลังของหลายประเทศที่ออกมากระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงคลี่คลายลง

“การทำข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ประเด็นสำคัญต่อจากนี้ไปคือ ทั้ง 2 ประเทศจะต้องมุ่งมั่นเจรจาต่อไปเพื่อให้ได้ข้อตกลงฉบับใหม่ที่ครอบคลุมประเด็นปัญหาและมีความยั่งยืนมากขึ้น” กิตาโกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ให้ความเห็น และยังยํ้าว่าถ้าหากการเจรจาสะดุด และเริ่มมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเกิดขึ้นอีก สัญญาณเชิงบวกทั้งหมดที่ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อเร็วๆนี้ ก็จะถูกทำลายลง ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายเฝ้าจับตามองและรอคอยดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป

ไอเอ็มเอฟแสดงความชื่นชมความพยายามของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลกที่ได้นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใช้กันในปี 2562 เพราะถ้าหากว่าไม่มีมาตรการเหล่านั้น ก็เชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีที่ผ่านมา ก็คงจะแผ่วลงประมาณ 0.5%

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ได้รับการปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุดในรายงานฉบับล่าสุดของไอเอ็มเอฟก็คือ อินเดีย โดยไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียลงจากระดับ 7% มาเหลือเพียง 5.8% ในปีนี้ เนื่องจากปัญหาสภาพคล่องภายในประเทศที่หดตัวลงอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ เชื่อว่า การชะลอตัวแรงของเศรษฐกิจอินเดียรวมทั้งการชะลอตัวของตลาดเกิดใหม่อย่างเม็กซิโก และชิลี ท่ามกลางความไม่สงบทางการเมือง จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมด้วย

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,542 วันที่ 23 - 25 มกราคม พ.ศ. 2563

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0