โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

IMFชี้เศรษฐกิจไทยสัญญาณดี หนุนเดินหน้า'บัตรคนจน'

เดลินิวส์

อัพเดต 20 ก.ค. 2562 เวลา 09.28 น. • เผยแพร่ 20 ก.ค. 2562 เวลา 09.04 น. • Dailynews
IMFชี้เศรษฐกิจไทยสัญญาณดี หนุนเดินหน้า'บัตรคนจน'
ไอเอ็มเอฟ บุกพบ อุตตม รมว.คลัง เชื่อมั่นเศรษฐกิจยังไทยแข็งแกร่งหลังการเมืองนิ่ง แต่แนะรัฐเร่งลงทุนในอีอีซี พร้อมหนุนเดินหน้าแจกเงินผ่านบัตรคนจน

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.62 คณะผู้แทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ได้เข้าพบเพื่อรายงานผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 62 โดยทางไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดีจากการบริโภคภาคเอกชน แม้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ - จีน นอกจากนี้ยังระบุว่าไทยมีฐานะการเงินระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่มั่นคง มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยรองรับจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้

นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟ ยังมองว่าการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนของไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี หลังมีความชัดเจนทางการเมืองและการลงทุนภาครัฐที่เป็นรูปธรรม แต่ไทยควรเฝ้าระวังความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงแนะนำให้ไทยเร่งรัดการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“คณะผู้แทนฯ ยังชื่นชมการดำเนินนโยบายการคลังของไทย โดยเฉพาะการออกกฎหมายพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561เพื่อกำหนดกรอบวินัยทางการเงินการคลังของประเทศ ขณะเดียวกันยังสนับสนุนนโยบายสวัสดิการสังคมแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีผู้มีรายได้น้อยรับประโยชน์กว่า 14.6 ล้านคน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันภายใตยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี และประเทศไทย 4.0”

นายอุตตมกล่าวว่า ตนได้ชี้แจงแผนนโยบายการคลังของไทยในระยะต่อไป จะสนับสนุนการลงทุนในโครงการอีอีซี รวมทั้งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งระบบรถไฟถนน ท่าเรือ และสนามบินต่าง ๆซึ่งปัจจุบัน ไทยได้ปรับปรุงกฎหมายการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) เพื่อดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ แล้ว นอกจากนี้จะเร่งปรับโครงสร้างภาษีในภาพรวมและพัฒนาระบบภาษีให้เป็นธรรมมากขึ้น ตลอดจนการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี และกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ๆ โดยมีการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งอนาคตที่มีทักษะขั้นสูง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0