ถ้าร่างกายต้องการการปะทะแก๊สน้ำตา คุณเตรียมตัวพร้อมหรือยัง ?
ภาพการชุมนุมใหญ่ ของเหล่าผู้ประท้วงในฮ่องกงกำลังเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประชาชนที่ออกมารวมตัวอย่างแน่นหนา จนอาจเรียกได้ว่าเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ และทั้งภาพของการเตรียมความพร้อม เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวอย่างครบครัน รวมไปการระวังตัวอย่างไม่ทิ้งร่องรอย ป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตามตัวได้ ทั้งในโลกดิจิทัลด้วย
The MATTER ได้รวบรวมอุปกรณ์ป้องกันตัวของชาวฮ่องกง ไปจนถึงวิธีปฏิบัติในการไปม็อบว่า พวกเขาเตรียมตัวกันอย่างไร เพื่อป้องกันการบาดเจ็บทางร่างกาย และการตามตัวทางดิจิทัลที่อาจโดนสืบสาวมาดำเนินคดีได้
ชาวฮ่องกง ได้มีการเตรียมตัวและแชร์ข้อมูลถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการชุมนุม เช่น กลุ่มหนึ่งที่ได้แชร์ข้อความถึง Confrontation Handbook(คู่มือการเผชิญหน้า)ว่าต้องแต่งกาย และทำอย่างไรด้วย ซึ่งมีทั้งการสวมเสื้อผ้าที่รัดกุม การสวมหน้ากาก ที่มีทั้งหน้ากากอนามัยทั่วไป และหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา รวมไปถึงแว่นตาป้องกันป้องกันสเปรย์พริกไทย หมวกกันน็อคป้องกันการปะทะ ร่ม และขวดใส่น้ำเปล่า เพื่อดับควันจากแก๊สด้วย
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์บางชิ้น ที่ผู้ชุมนุมบางกลุ่มเลือกพก เช่น ใส่เข็มขัด เพื่อให้เพื่อนผู้ชุมนุมดึงตัวได้หากโดนโจมตีด้วย รวมถึงบางคน ที่รับหน้าที่ดูแลอาหาร ก็จะทำการพกกระเป๋าที่เต็มไปด้วยเบอร์เกอร์ หรืออาหารอื่นๆ และเจ้าหน้าที่พยาบาล ที่ทำหน้าที่พกยา และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ไม่เพียงแค่มี อุปกรณ์ที่ต้องพร้อม แต่ชาวฮ่องกงยังเลือกวิธีการปฏิบัติตนที่ระวังตัว เพื่อไม่ให้ทิ้งร่องรอย และตัวตนของตัวเองไว้ในการชุมนุมด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- ป้องกันการเปิดเผยตัวตนในโซเชียลมีเดียเช่น รูปถ่ายที่เปิดเผยใบหน้า
- ใช้แอพฯ ติดต่อที่มีการเข้ารหัส เช่น Telegram หรือ Signal
- งดใช้wi-fi สาธารณะ
- ลบข้อความที่สนทนาเกี่ยวข้องกับการประท้วง
- ใช้ซิมการ์ดแบบชำระเงินล่วงหน้าที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคล
- ห่อบัตรประชาชนด้วยฟอยด์กันการโดนสแกน
- ปิดโลเคชั่น การติดตามตำแหน่งบนโทรศัพท์
- ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินใช้แล้วทิ้งแทนที่จะใช้บัตรที่เชื่อมโยงกับรหัสของพวกเขา
- ปฏิเสธที่จะให้เบอร์โทรศัพท์กับนักข่าว
- เขียนเบอร์โทรศัพท์ของทนายไว้บนร่างกายด้วยปากกามาร์กเกอร์ที่มีน้ำมัน ในกรณีที่ถูกจับกุม
Ivan Ip หนึ่งในผู้ชุมนุมวัย22 ปี และผู้เข้าร่วมกลุ่มแชทใน telegramให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งเหล่านี้ว่า “เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับฮ่องกง ทำให้เกิดแรงกดดันสูงต่อเสรีภาพในการพูด ซึ่งผู้คนเริ่มถูกปิดปากตามระบอบการปกครองที่ต้องการ”
ซึ่งแม้ว่าจะได้รับการชื่นชมถึงการระวังตัว แต่ Ip ก็มองว่าวิธีการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนด้วย
อ้างอิงจาก
Illustration by Waragorn Keeranan
