ในทุกวันนี้นั้นคนเราต้องประสบพบเจอกับสิ่งต่างๆ และเรื่องราวมากมาย ยิ่งโลกหมุนไปเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกกดดันและเครียดกับสิ่งต่างๆ ในโลกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งก็ยากที่จะปรับตัวได้ทันเหมือนกัน แต่ว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากมากจนเกินไป กับการที่เราจะรู้เท่าทันจิตใจของตัวเอง และปรับให้ตัวเองนั้นมีความสุขได้ เจ้จะมาแนะนำวิธีดีๆ ที่จะรักษาสุขภาพจิตของคุณไว้กันค่ะ
#1. การไม่รับรู้อะไร
บางทีการรับรู้อะไรมากเกินไป ก็จะพลอยทำให้เราต้องคิดมากและเป็นทุกข์ โดยเฉพาะข่าวร้ายและเรื่องในแง่ลบ การที่เราไม่รู้อาจจะเป็นผลที่ดีกับจิตใจของเราเสียมากกว่า อย่างเช่น เราไม่จำเป็นจะต้องติดตามข่าวสารทุกอย่างมากจนเกินไป เพราะบางครั้งถ้าเราไปเจอข่าวอาชญากรรม ข่าวที่ชวนสลดหดหู่ ก็จะส่งผลทำให้รู้สึกแย่ตามเนื้อข่าวที่ได้รู้ไปด้วย รวมถึงคำนินทาของคนอื่นที่มีกับเรา ถ้าหากว่าเราไม่ต้องรับรู้ และก็จะไม่ต้องเก็บเอามาคิดมากไปด้วยเป็นต้น
#2. รู้เท่าที่ควรรู้
บางสิ่งบางอย่างการที่เรารับรู้มากจนเกินไป ก็จะก่อให้เกิดความเป็นทุกข์ได้เหมือนกัน หรือบางเรื่องราวที่คนอื่นไม่ต้องการให้เรารับรู้มากไปกว่านี้ ก็อย่าตื้อ เซ้าซี้หรือกดดันให้เขาบอกความลับเหล่านั้นเลย เพราะบางครั้งการรับรู้ความจริงที่มากเกินไป อย่างเรื่องราวของแฟนเก่าที่เลิกรากันไปแล้ว ก็ยังจะตามไปส่องอีก กลับมาทำให้คิดในภายหลังได้ว่าไม่ควรจะมารับรู้เลยเสียแต่แรกยังจะดีซะกว่า ดังนั้นการรู้ให้น้อยเข้าไว้ อาจจะปลอดภัยกับจิตใจของคุณมากกว่านะ
#3. ก้าวข้าม และปล่อยผ่าน
บางสิ่งบางอย่างไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่เราจะเก็บเอามาคิดและจมอยู่ความทุกข์เหล่านั้น มันมีแต่จะทำให้ฉุดรั้งเราไว้ ให้ไปไหนไม่ได้เสียเปล่าๆ ดังนั้นแล้ว…ความทุกข์เข้ามาหาเราได้มันก็จากเราไปได้เหมือนกัน จงข้ามผ่านความทุกข์นั้นไปเสีย อย่าหยุดช่วงเวลาชีวิตของตัวเองไว้ที่ความทุกข์นานจนเกินไปเลย ข้ามผ่านมันไปให้ได้ดีกว่า
#4. ทิ้งได้ก็ทิ้ง
หากมีความทุกข์ก็เอาความทุกข์เหล่านั้นออกไป พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาแทน สิ่งร้ายๆ นั้นเข้ามาทำร้ายจิตใจของเราได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าหากว่าเราไม่แบกรับมันไว้ให้เป็นภาระที่หนักอก เพราะมันจะอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้น รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็นกับชีวิตด้วยไม่จำเป็นต้องเอาเก็บมาไว้เสียหมด ให้คงเหลือไว้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นดีกว่าค่ะ
#5. อย่าลังเล แล้วก้าวต่อไป
มีหลายครั้งหลายหน เราอาจจะรู้สึกลังเลกับความคิดความรู้สึกต่างๆ แต่ถ้าหาคำตอบได้แล้ว ว่าการเริ่มต้นใหม่เป็นสิ่งที่จะส่งผลดีกับคุณมากกว่าแล้วล่ะก็ ขอจงอย่าลังเลที่จะเริ่มลงมือทำเลย บางครั้งการลังเลมากไปอาจจะส่งผลทำให้เราเสียโอกาสดีๆ ในชีวิตได้ค่ะ รีบเริ่มใหม่ทำใหม่ ใช้ชีวิตให้เต็มที่แบบที่จะไม่กลับมาเสียดายมันอีกกันดีกว่า
สรุปแล้วเราควรรู้ในสิ่งที่ควรรู้ ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกจนเกินไป รวมถึงบางครั้งการไม่รับรู้อะไรเลยก็เป็นผลดีกับคุณเช่นเดียวกัน และอย่าใช้ชีวิตร่วมกับความทุกข์นานจนเกินไป หวังว่าการเริ่มศักราชใหม่นี้ จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น เจ้หวังว่าคำแนะนำต่างๆ ในบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณได้ไม่มากก็น้อยค่ะ ขอให้ความสุขจงคงอยู่กับทุกๆ คนค่ะ
