สำหรับบางคนก็มีแฟนในที่ทำงานเดียวกัน ตอนที่รักใคร่กันก็ดีน่าใจหาย ใครๆ ต่างก็พากันอิจฉาที่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ถ้าเกิดว่าทะเลาะเบาะแว้ง หรือว่าเลิกรากันขึ้นมานี่สิ จะให้ความรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นแทนเลยทีเดียว อยากจะหนีหายไปให้ไกลๆ ก็ยังทำไม่ได้ เพราะยังไงก็ยังต้องทำงานต่ออยู่ดี ก็พอจะมีวิธีรับมือกับวันที่ต้องเลิกรากับคนรัก แต่ก็ยังต้องทำงานด้วยกันอยู่นะคะ
#1. รักษาความเป็นมืออาชีพ
ไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาปนกับงาน ต่อให้ในเรื่องส่วนตัวเขาจะทำแย่กับเรามากสักแค่ไหน แต่ก็ต้องแยกแยะเรื่องงานออกมาจากความที่ไม่พอใจในตัวเขาให้ได้ ไม่เช่นนั้นนอกจากความสัมพันธ์ของคุณและเขาจะพังแล้ว งานก็จะพังตามไปด้วยอีก ระวังชีวิตแย่กว่าเดิมเอา หากเลิกกับเขาไปแล้ว งานควรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคุณต่อไปนะ ในยามที่ไม่เขาดูแลคุณแล้ว คุณก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้สิ งานนี่แหละดูแลชีวิตคุณได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตเลยล่ะ
#2. ความในอย่านำออก
แน่นอนว่าการคนในที่ทำงานเดียวกันย่อมมีคนล่วงรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขา อาจจะรู้ทุกคนเลย หรือว่ารู้กันไม่กี่คนก็ตาม ใครๆ ก็ย่อมที่อยากจะรู้อยากจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณสองคนกันอยู่แล้วล่ะ แต่ไม่ดีหรอกถ้าจะเอาเรื่องส่วนตัวระหว่างแฟนเก่ามาพูดมาเล่าให้ฟัง จะตกเป็นหัวข้อให้ถูกเม้ามอยในลับหลังซะเปล่าๆ บอกว่าเลิกกันแล้วโดยที่ไม่ต้องลงรายละเอียดอะไรให้เยอะดีที่สุดค่ะ
#3. ไม่พูดถึงเขาในแง่ร้าย
ไม่ว่าแฟนเก่าคุณจะทำร้ายความรู้สึกของคุณมากมายขนาดไหน แต่ก็ไม่ควรพูดถึงเขาในแง่ลบ เพราะว่าคุณเองต่างหากที่จะถูกคนอื่นมองว่าไม่ดี พูดจาให้อีกฝ่ายเสียหาย ทั้งๆ ที่เคยเป็นคนรักมาก่อน ทำให้เขาต้องคิดแล้วล่ะว่าแม้แต่คนรักเก่าเธอยังทำได้ขนาดนี้ แล้วคนที่เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเฉยๆ ถ้าทำให้คุณไม่พอใจขึ้นมาจะโดนเล่นงานสักขนาดไหนกันล่ะนี่
#3. เลี่ยงการแข่งขัน
เป็นเรื่องธรรมดาที่ในที่ทำงานมักจะต้องมีการแข่งขัน หรือว่าต้องแข่งขันกันสร้างไอเดีย นำเสนองานออกมาให้ดีให้โดนใจ ถ้าเป็นกับคนอื่นๆ คุณก็สามารถทำได้เพราะจะโฟกัสไปที่งานเสียมากกว่า แต่กลับกันถ้าคู่แข่งเป็นอดีตแฟนของคุณแล้วล่ะก็ มันก็อดไม่ได้หรอกที่คุณจะไปจดจ่ออยู่ที่เขามากกว่าเรื่องงาน แถมยังจะยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดีต่อกันมากกว่าเดิมเข้าไปอีก ดังนั้นแล้วอย่าพึ่งกลับมาแข่งกันเองเลยดีกว่านะ
#4. รักษาระยะห่าง
ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเคยรักเคยรู้จักกัน เคยสนิทกันมาก่อน แต่หลังจากที่เลิกรากันไปแล้วควรที่จะเว้นระยะห่างกันไว้ดีกว่า ไม่ใช้ความเคยชินออกไปดื่มกาแฟ กินข้าวกับเขา หรือว่าทำงานร่วมโปรเจคเดียวกันกับแฟนเก่าอีกเลย ไม่ควรโทรศัพท์หา ติดตาม social network แม้แต่แชทคุยกับเขาอีก ไม่ควรจะไปสนใจ รับรู้อะไรชีวิตเขาเหมือนๆ เดิม คุณก็จะได้ทำใจได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้นหน่อย
#5. ไม่ใช้คนอื่นมากดดัน
บางคนยิ่งแล้วใหญ่ อยากให้เขากลับมาจึงใช้คนอื่นๆ ในที่ทำงานรุมกดดันให้เขากลับมาหาเธอ ซึ่งไม่ควรที่จะทำแบบนั้นเลย ความรักไม่ใช่สิ่งที่จะมาบังคับฝืนใจกันได้ ในยามที่หมดรักเลิกรากันไปแล้ว ก็ควรให้เป็นการตัดสินใจของเขาเท่านั้น ดีกว่าว่าถ้ายังรักคุณอยู่แล้วจะกลับมาหาคุณไหม เป็นคุณเองก็คงจะรู้สึกไม่ดีหรอก ถ้าจะโดนเขาทำแบบนี้บ้างนะ
#6. ทำใจยอมรับเขาในฐานะเพื่อนให้ได้
อย่างไรก็ดีเพราะว่ายังจะต้องทำงานอยู่ที่เดียวกันซึ่งก็น่าจะอีกนาน ถ้าทั้งคุณและเขาไม่มีแพลนว่าจะย้ายงานไปไหน ทำใจให้อภัยเขาให้ได้หรือลดล้างการจองเวรต่อกันและกัน ใช้ชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้า ดีกว่าจะมาใช้เวลาที่เหลือต่อกันด้วยความเกลียดชัง ให้รู้สึกไม่สบายใจกันทั้งสองฝ่ายนะคะ
#7. ทำใจให้ได้ถ้าเขาจะไปมีคนใหม่
ไม่ว่าคุณสองคนจะเลิกกันเพราะมีมือที่สามหรือไม่ แต่ยังไงเสียถ้าเลิกรากันไปแล้ว ก็คงต้องทำใจให้ได้ว่าเขาไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป และอาจจะต้องพบเจอ พบเห็นภาพบาดตาบาดใจ เวลาที่เขาอยู่กับคนอื่น ดังนั้นแล้วยังไงก็อย่าลืมว่าต้องจะทำใจให้ได้สักวันจริงๆ เพราะไม่คุณก็เขาก็ยังต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองต่อไปอยู่ดี
เลิกเป็นคนรักกันแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นศัตรูกันเสียเมื่อไหร่ แค่เป็นคนเคยรู้จักที่เคยรู้สึกดีๆ ต่อกันก็ได้นี่นา อย่าใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความโกรธเกลียดชังกันเลยเถอะนะ เพราะจะกลายเป็นว่าคุณเอาไฟมาสุมอยู่ที่หัวใจตลอดเวลาซะมากกว่า ให้อภัยเค้าเพื่อที่ตัวเองจะได้ใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขดีกว่าค่ะ
