สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน คาดสงครามการค้าไม่ยืดเยื้อ ลุ้นครม.ใหม่เรียกความเชื่อมั่น ลุ้นหุ้นไทยครึ่งปีหลังปรับขึ้น 1,750-1,800 จุด
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวในงาน “Hot Issue ครั้งที่ 1/ 2562 เรื่อง “ลงทุนอย่างไรในช่วงการเมืองคืบหน้า สงครามการค้าโลกคืบหลัง “ ว่า สถานการณ์สงครามการค้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นปัจจัยชั่วคราวที่ทั้งสองประเทศ คือสหรัฐกับจีน จะต้องหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากการประกาศสงครามการค้าระหว่างกันนั้น ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
สำหรับเศรษฐกิจของจีนในเวลานี้ เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัว ถึงแม้ว่าจะยังมีอัตราการขยายตัวอยู่ในระดับสูงเกิน 6% ซึ่งเป็นผลจากการใช้นโยบายการคลังของรัฐบาล คิดเป็น 70% ของจีดีพีจีน แต่ไม่สามารถใช้มาตรการดังกล่าวได้นานนัก เนื่องจากเป็นเม็ดเงินในระดับสูง
ขณะที่สหรัฐ แม้จะประกาศใช้มาตรการตอบโต้กับจีนด้วยการขึ้นภาษี แต่เวลานี้ภาคการผลิตกำลังได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจส่งผลทำให้การว่างงานสูงขึ้น ทำให้การบริโภคลดลง ประกอบกับปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง เชื่อว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่ทำให้เศรษฐกิจในประเทศย่ำแย่ และจะสามารถเจรจาหาข้อยุติได้ในช่วงการประชุมจี 20 เดือนมิ.ย. ที่ประเทศญี่ปุ่น
ส่วนการเมืองภายในประเทศนั้นมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะลงตัว และสามารถเดินหน้าเปิดประชุมสภาได้ โดยขอให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นบุคคลที่มีฝีมือและเป็นที่ยอมรับ จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้เนื่องจากเห็นความชัดเจนของทั้งปัจจัยสงครามการค้า และการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว คาดว่าดัชนีหุ้นไทยปี 2562 อยู่ที่ 1,750 – 1,800 จุด
“สิ่งที่นักลงทุนเป็นห่วง คือ เรื่องเสถียรภาพและความต่อเนื่องของนโยบาย หากรัฐบาลชุดใหม่อยู่ได้ไม่นาน นักลงทุนจะลงทุนแค่ระยะสั้น จึงขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้แค่ไหน” นายไพบูลย์กล่าว
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 1-2 เดือน ยังมีความผันผวน นักลงทุนควรติดตามความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คาดกรอบการเคลื่อนไหวระยะสั้นอยู่ระหว่างแนวต้าน 1,680 จุด และ แนวรับ 1,600 จุด โดยเชื่อว่าหุ้นไทยจะไม่ต่ำกว่า 1,600 จุด
ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิของตลาดหุ้นอยู่ที่ 106.58 บาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 7.4 ขณะที่เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,705 จุด ระดับราคาต่อกำไรสุทธิอยู่ที่ 16 เท่า
stock2morrow
ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่