จริงๆ เราตั้งเป้าตั้งแต่ต้นปี 2018 แล้วว่าจะลดน้ำหนัก ว่าจะทำให้ได้ จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปเกือบจะจบปี 2019 แล้ว หลังจากที่เพิ่งไปงานดนตรีที่จัดขึ้น 2 วันติด และมีการดื่มแอลกอฮอล์ในระดับที่มีสติ กระโดดแบบพอประมาณตามท่วงทำนองของเสียงเพลง
เช้าวันถัดมาเราปวดเมื่อยไปทั้งตัว รวมถึงมีอาการแฮงค์ผสมเข้ามาด้วย เลยบ่นๆ ลงโซเชียลมีเดียว่าจะไม่เที่ยวแล้ว แต่เพื่อนกลับพิมพ์ตอบมาว่าไปออกกำลังกายเดี๋ยวนี้ เลยสำเหนียกใจ ลุกไปชั่งน้ำหนักที่หน้าร้านสะดวกซื้อ และต้องช็อคกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจนคิดว่าตรวจสุขภาพประจำปีคราวนี้ต้องโดนหมอดุแน่ๆ เพราะทั้งชานมไข่มุก หมูกระทะ ชาบูที่กินมาแบบไม่ยั้ง
แต่ก่อนเราอาจจะอ้างว่าไม่มีเวลาก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถอ้างได้อีกแล้วเพราะร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนตัวเองว่าเราต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เราจึงใช้เวลา 1 วันเต็มค้นหาดูว่าคนที่ดูแลสุขภาพเขาดูแลยังไง บทความจากทั่วโลกเขาศึกษาการเริ่มต้นดูแลสุขภาพตัวเองของมนุษย์เงินเดือนที่อ้างว่าไม่มีเวลาดูแลตัวเองกันอย่างไรบ้าง
24 ชั่วโมงของเราไม่เท่ากัน
ถึงเราจะมีเวลาในแต่ละวันเท่ากัน แต่ด้วยหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบของแต่ละคนอาจจะทำให้เวลา 24 ชั่วโมงมีไม่เท่ากัน เพราะบางคนอาจทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย หรือบางคนต้องกลับไปช่วยงานที่บ้าน หรือรับงานนอกมาทำเพื่อหาเงินเพิ่ม การจัดการเวลาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะทำให้เราได้มีเวลามาดูแลสุขภาพบ้าง
แบบพื้นฐานสุดๆ ที่เราอ่านมา การจัดการเวลาด้วยเทคนิค Time boxing น่าจะเป็นเครื่องมือที่ง่ายสำหรับคนไม่มีเวลาแบบเราที่สุด ในการแบ่งช่วงเวลาและกิจกรรมที่ทำให้เป็นกล่องๆ อันนี้ไม่ยากเท่าช่วยเราจัดการเวลาได้แน่นอน แต่ความยากคือเราจะกำหนดตัวเองให้ทำตามสิ่งที่เรากำหนดไว้ได้หรือเปล่า? เพราะบ้างครั้งความขี้เกียจมักนำเราไปหนึ่งก้าวเสมอ
นอนให้พอ
ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า เพราะว่างานเร่งจนงงใจทำไมเสร็จเช้าทุกที อันนี้เป็นผลต่อเนื่องจากการที่เราจัดการเวลาไม่ดีพอ เราเริ่มสำรวจตัวเองไม่ว่าจะใต้ตาหมองคล้ำ หน้าเหี่ยวหน้าแห้ง เริ่มเบลอจำได้บ้างไม่ได้บ้าง เหล่านี้คืออาการของคนไม่ได้นอนมาหลายวัน การพักผ่อนน้อยทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายและสมองรวนไปหมด
การนอนให้พอ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะเวลาหนึ่งในสามของชีวิตเราทุ่มเท่ไปให้กับการนอน แสดงว่ามันสำคัญจริงๆ นะ ดูแลตัวเองด้วยการให้ตัวเองได้นอนพักผ่อนเถอะ ส่วนใครจะบอกว่ามีเวลานอนอีกมากตอนเราตายก็ปล่อยเขาไป
โอกาสมาต้องขยับ
ความสำคัญอยู่ที่รายละเอียด เราเชื่อแบบนั้นเสมอ และบทความหรือโฆษณาต่างๆ ก็เชื่อแบบนั้น ไม่ว่าจะให้เราเปลี่ยนมาเดินขึ้น-ลงบันได เดินขึ้นสะพานลอย เดินไปซื้อของใกล้ๆ หรือยืนแกว่งแขนไป-มา แบบโฆษณา สสส. ก็เข้าท่า เวลาเล็กๆ น้อยๆ เป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้ออกกำลังกาย
เพราะเราอาจจะไม่มีเวลามากขนาดที่จะลุกขึ้นมาเปิด YouTube แล้วเต้นตาม หรือเข้ายิมหลังเลิกงาน การฉกฉวยเวลานิดหน่อยๆ ก็เพิ่มโอกาสให้เราได้ขยับมากขึ้น โอกาสก็มากขึ้น
กินให้ดี
อาหารดีคือคีย์สำคัญ แม้ว่าเราจะหลงรัก fast food ที่อุดมไปด้วยโซเดียม แป้ง และไขมันสูง แต่บางทีเราก็ควรที่จะรักตัวเองมากกว่า ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารที่ครบถ้วนพอดี ไขมันต่ำ ไม่อ้วนมาก ให้โอกาสกับอาหารที่ดีเข้ามาในชีวิตบ้าง เช่นปลานึ่ง ไก่นึ่ง และผักต้มจิ้มน้ำพริก บ้างก็ได้
ดื่มนมโฟร์โมสต์พร่องมันเนย
เราเขียนมาถึงหน้าสุดท้าย ก็ถึงช่วงสปอนเซอร์ใจดีที่ให้โอกาสเราได้เขียนบทความในการดูแลสุขภาพ ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่เรายังผอมเพรียว เสื้อไซส์ M นมกับขนมปังเป็นมื้อเช้าของเราอยู่เสมอ เพราะตื่นสายมีเรียนเช้าอยู่ตลอด
ตอนนั้เราเลือกดื่มแต่นมพร่องมันเนยช็อคโกแลต เพราะมีไขมันน้อยกว่า 50%
สารภาพตรงๆ ว่าอยากดูดี แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ พอเราเลือก ดื่มนมพร่องมันเนย ใส่ใจตัวเองในรายละเอียดการกินแล้ว น้ำหนักมันลงจริงๆ พุงยุบจริง
แต่มันก็หลายปีมาแล้ว ตอนนี้เราคิดว่าควรกลับมาดื่มอีกครั้งในตอนเช้าที่ออฟฟิศไม่ยอมให้กินข้าวที่โต๊ะทำงาน เพราะการกินอาหารเช้าทำให้เราอยากอาหารในมื้อถัดๆ ไปลดลง และช่วยทำให้มีแรงสำหรับการทำงานแบบเต็มที่ การดื่มนมในช่วงเช้านั้นสะดวก ดื่มง่าย อิ่มท้องในชั่วโมงเร่งด่วน และยังมีวิตามินบี 2,12 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และไอโอดีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแถมไขมันต่ำอีกด้วย เป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้เราสุขภาพดีกับชีวิตที่แบ่งเวลายาก
*เรื่องดูแลสุขภาพถ้าเราไม่เริ่มเดี๋ยวนี้ทันที ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ ก็ไม่รู้จะไปเริ่มเมื่อไหร่ *
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก http://bit.ly/37dafc4
Content by Sakrapee Rinsan
Illustration by Krittaporn Tochan
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น (0)