โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Gucci แบรนด์ร้อยปีที่สามารถครองใจ”เจน Z”

Money2Know

เผยแพร่ 17 ก.ค. 2562 เวลา 00.00 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
Gucci แบรนด์ร้อยปีที่สามารถครองใจ”เจน Z”

แม้จะเป็นแบรนด์หรูที่ก่อตั้งมาร่วมร้อยปี แต่แบรนด์ดังอย่าง Gucci ก็สามารถครองใจคนมิลเลนเนียลได้เช่นกัน

เมื่อปีที่แล้ว 62% ของยอดขายมากกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ของกุชชี่ มาจากคนอายุต่ำกว่า 35 ปี อันเป็นกลุ่มที่ปกติแล้วยากต่อการทำตลาดสำหรับแบรนด์หรู แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของกุชชี่ในขณะนี้ คือกลุ่มเจน Z ที่ผู้อายุมากที่สุดในเจนนี้ คือ 24 ปี

สิ่งดังกล่าวนับว่าดีต่ออนาคตของกุชชี่ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2568 คนยุคมิลเลนเนียลและคนเจน Z จะมีสัดส่วน 45% ในการใช้จ่ายสินค้าหรูหรา

Marco Bizzarri ซึ่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอกุชี่เมื่อปี 2558 และขับเคลื่อนจนแบรนด์เติบโตอย่างกระหึ่ม ระบุว่าความสำเร็จของแบรนด์ โดยเฉพาะกับผู้บริโภคอายุไม่มากนัก อยู่ที่การหาสมดุลระหว่างการสร้างสรรค์กับเทคโนโลยี หรือระหว่างศิลปะและศาสตร์

Bizzarri ไม่ได้หวั่นกลัวเทคโนโลยี แต่กลับมองในแง่ดี เพราะเห็นโอกาสที่จะนำเทคโนโลยีไปใช้ทำงานที่น่าเบื่อ แล้วนำเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น เช่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เขาจึงนำเทคโนโลยีมาใช้กับบริษัทเพื่อช่วยให้ประสบการณ์การชอปปิงของผู้บริโภคเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น ทั้งยังทุ่มทุนนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารชัพพลายเชน, การคาดหมายยอดขาย และระบบสั่งการด้วยเสียงสำหรับพนักงานขายในร้าน สิ่งเหล่านี้ช่วยดึงดูดเจน Z ซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการคาดหมายว่าการชอปปิงจะต้องไร้รอยต่อ

Bizzarri ยังดึง Alessandro Michele มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายครีเอถีฟ ซึ่งได้แปลงโฉมสุนทรียะของกุชชี่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยการนำชีวิตชีวาและความน่าตื่นตาตื่นใจมาสู่แบรนด์ เมื่อปีที่แล้วทางบริษัทยังเปิด Gucci ArtLab ซึ่งช่างฝีมือสามารถไปครีเอทสินค้ากุชชี่แบบทำมือได้

ผู้บริโภครุ่นใหม่ขานรับทิศทางใหม่นี้อย่างดี ตั้งแต่ Bizzarri กับ Michele เข้ามาดูแลบริษัท ธุรกิจเพิ่มขึ้น 3 เท่าและมีพนักงานใหม่ 8,000 คน ซีอีโอระบุว่าผู้บริหารฝ่ายครีเอถีฟช่วยเปลี่ยนมุมมองการรับรู้แฟชั่นไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกิจกรรมของฝ่ายสนับสนุนในการจัดหาสินค้า อย่างซัพพลายเชน ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตได้ 3 เท่าอย่างรวดเร็ว อันตอบรับกับความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ที่เมื่อชอบสินค้าใดแล้ว ก็อยากได้ไว้ในครอบครองทันที

ย้อนหลังไปเมื่อเข้าร่วมงานกับกุชชี่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว Bizzarri เดินทางไปทั่วโลกเพื่อตั้ง “คณะกรรมการเงา” อันประกอบด้วยคนที่อายุต่ำกว่า 30 หวังที่จะเข้าใจมุมมองของคนกลุ่มนี้ นอกจากนั้น เขายังเชิญคนรุ่นใหม่ 30 คนไปนั่งอยู่ในห้องเดียวกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี เพื่อระดมสมองและความคิดเห็น

Bizzarri บอกว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้รู้บางอย่างมากกว่าเขา ดังนั้นในฐานะซีอีโอ เขาต้องละวาง ego ซะบ้าง

นอกจากนั้น เขายังเป็นซีอีโอที่มองโลกแง่ดีอยู่ตลอดเวลา รวมถึงในยามที่โลกกำลังเผชิญวิกฤติการเมือง หรือวิกฤตสังคม-เศรษฐกิจ เพราะซีอีโอที่เขาชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นลี ไออาคอกคาแห่งไครสเลอร์ ไปจนถึงสตีฟ จ็อบแห่งแอปเปิล ล้วนมีมุมมองแง่บวก

Bizzarri ให้เหตุผลว่ามีหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ในโลกนี้ แต่ในบริษัทที่เขาดูแลอยู่นั้น เขาอยากสร้างบรรยากาศแห่งความเห็นอกเห็นใจและกระตุ้นให้เกิดพลังงานในบริษัทมากกว่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0