บริษัทGoogle ใช้การเก็บข้อมูลการเดินทางจากสมาร์ทโฟนของผู้ใช้เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างๆ ได้เข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการแพร่ระบาดของ COVID-19 มากขึ้น โดยภายในบล็อคของ Google ได้มีการเพิ่มข้อมูลของ COVID-19 Community Mobility Reports เข้ามา และได้เขียนอธิบายภายในบล็อคไว้ดังนี้
ตอนนี้ผู้คนทั่วโลกได้พยายามรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและดูแลตนเองอย่างการทำ Social Distancing หรือลดการเดินทางออกไปข้างนอกบ้าน แต่พวกเรา (Google) จะพยายามให้การช่วยเหลือในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น โดยภายใน Google Maps เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ และพฤติกรรมของคนในชุมชนแบบไม่ระบุตัวตน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขและรัฐบาลในการพิจารณาเพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการรับมือกับ COVID-19 ได้อย่างมีประสทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งรายงานที่ว่านี้ทาง Google ได้นำเอาข้อมูลจาก Location History ของผู้ใช้มาทำการ วิเคราะห์ลักษณะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของบุคคลภายในพื้นที่นั้นๆ ในรูปแบบตัวเลขอย่างคร่าวๆ โดยเปิดให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ ใน 131 ประเทศทั่วโลก ที่จะมีการแบ่งข้อมูลการรายงานทั้งจากแต่ละ เมือง, จังหวัด (รัฐ) และในประเทศนั้นๆ และได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลในรูปแบบไฟล์ PDF
ภาพจาก : https://www.theverge.com/2020/4/3/21206318/google-location-data-mobility-reports-covid-19-privacy
โดยภายใน COVID-19 Community Mobility Reports ของ Google นี้จะทำการแบ่งข้อมูลของสถานที่ต่างๆ ออกเป็น 6 ประเภท และสำหรับข้อมูลของ ประเทศไทย (มีเฉพาะข้อมูลของประเทศในภาพรวมเท่านั้น) ได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่29 มีนาคม 2020 เทียบกับในช่วงวันที่ 3 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2020 เป็นข้อมูลตั้งต้น (Baseline) และมีผลวิเคราะห์ออกมาดังนี้
- มีการเดินทางไปยัง ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ หรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจจำพวกโรงภาพยนตร์, ห้องสมุด หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ลดลงถึง 55%
- มีการเดินทางไปยัง ร้านค้า, ตลาดสด, ร้านขายอุปกรณ์เฉพาะทาง และร้านขายยา ลดลง 27%
- มีการเดินทางไปยัง พื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ, สวนหย่อม, ลานออกกำลังกาย รวมทั้งสถานที่ท้องเที่ยวจำพวกทะเล และพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ลดลงราว 54%
- มีการเดินทางไปยัง สถานีขนส่งสาธารณะต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า, รถประจำทาง, สถานีรถไฟ หรือพื้นที่ที่เป็นขนส่งมวลชน ลดลงถึง 61%
- มีการเดินทางไปยังสถานที่ทำงาน ลดลงประมาณ 21%
- มีการใช้เวลาอยู่ใน ที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้นราว 16%
ภาพจาก : https://www.gstatic.com/covid19/mobility/2020-03-29_TH_Mobility_Report_en.pdf
นอกจากนี้ ทางGoogle ยังระบุว่าจะทำการ อัปเดตข้อมูลนี้อยู่เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการรายงานข้อมูลรายวัน เนื่องจากต้องใช้เวลาราว2-3 วันในการวิเคราะห์เทียบข้อมูลชุดใหม่ แต่บริษัท Google ก็ได้เน้นย้ำว่าจะพยายาม ขยายการเพิ่มข้อมูลในแต่ละพื้นที่ ให้มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลรายงานนี้ทาง Google ก็ได้ทำการ ดึงข้อมูล มาวิเคราะห์เฉพาะจาก Location History ของผู้ใช้ที่อนุญาตให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น ทำให้ข้อมูลที่ได้อาจมีความคาดเคลื่อนไปบางส่วน และสำหรับผู้ใช้คนใดที่ไม่ต้องการให้ Google เก็บข้อมูลในส่วนนี้ก็สามารถกดเข้าไป ปิดการเข้าถึงข้อมูล ได้ด้วยการกดไปที่เมนูแฮมเบอร์เกอร์ (≡) > Your Timeline จากนั้นเลือกที่สัญลักษณ์ Location ไปที่ Manage เลื่อนปิดการเข้าถึง Location History และกด Pause เพื่อปิดกั้นการเช้าถึงข้อมูล (หรือเข้าไปที่ไอคอน Account ของตนเอง และเลือกที่ Your data in Maps จากนั้นเข้าไปปิดการทำงานของการเก็บข้อมูลได้ที่ Location History)
และสำหรับผู้ที่สนใจจะ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดตามการอัปเดต ข้อมูลนี้ก็สามารถเข้าไปที่ https://www.google.com/covid19/mobility/ และใส่ชื่อประเทศหรือเมืองที่ต้องการค้นหาเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลแบบ PDF ได้เลย
