ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Google บุกตลาดจีนอีกครั้งผ่านการเจรจาลงทุนต่างๆ และล่าสุดก็เป็นการเจรจาเพื่อเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเว็บไซต์ JD.com เว็บไซต์ E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของจีนเป็นรองแค่ Alibaba เท่านั้น ด้วยมูลค่าการลงทุน 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายฐานการลงทุนในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งจากการประมาณการ คาดว่าคนในภูมิภาคนี้จะใช้จ่ายทางออนไลน์มากถึง 88,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 จากการเข้าถึงที่อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น และการขายสินค้าทางเว็บไซต์
การเจรจาในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทางออนไลน์หน้าใหม่และผู้ใช้งานในอนาคต สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า Google จะได้รับหุ้นสามัญระดับ A ของ JD.com จำนวน 27.1 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของหุ้นทั้งหมด
ขณะเดียวกัน JD.com ก็จะนำสินค้าคุณภาพสูงกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลกผ่าน Google Shopping ซึ่งรวมถึงตลาดในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงสินค้าจากผู้ค้าปลีกชาวจีนก็จะปรากฎผ่านผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องบน Google ด้วย
Google ขยายกลุ่มสินค้าที่ให้บริการ Shopping อย่างรวดเร็ว รายงานจาก CNBC เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอธิบายให้เห็นว่าการเข้าซื้อกิจการ Whole Foods ของ Amazon ถือเป็น "สัญญาณเริ่มต้นที่แท้จริง" ให้บรรดาร้านค้า ทั้ง Costco, Target และ Walmart ต้องตื่นมาหาพันธมิตรอย่าง Google โดยการทำให้สินค้าของร้านไปปรากฎบน Google Assistant หรือ Google Shopping หรือแม้แต่ผู้ค้าปลีกในยุโรปก็ต้องเริ่มที่จะเป็นพันธมิตรกับ Google เพื่อสู้กับ Amazon เช่นกัน
การเข้าเป็นหุ้นส่วนด้านกลยุทธ์กับ JD.com ของ Google ในครั้งนี้ สะท้อนการมีอยู่ของแบรนด์ Google ในจีนว่าเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่ง Google ยังได้ทำข้อตกลงกับทั้ง WeChat ของ Tencent ไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งมีการปล่อยแอพพลิเคชั่นอาทิ Files Go (ใช้สำหรับจัดการพื้นที่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่) และ ARCore (แพลตฟอร์มด้าน AR) ใน App Store ของจีนด้วย