กูเกิล (Google) เตรียมปิดเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก "กูเกิลพลัส" (Google+) เร็วกว่ากำหนดเดิม หลังจากค้นพบบั๊กหรือข้อผิดพลาดใหม่ที่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้จำนวนมากมีช่องโหว่ถูกเปิดดูได้โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว เบื้องต้น Google ยอมรับว่าข้อผิดพลาดนี้อาจกระทบกับผู้ใช้มากกว่า 52.5 ล้านคนทั่วโลก
Google โพสต์ในบล็อกของบริษัทโดยยอมรับว่าข้อผิดพลาดนี้เป็นข้อผิดพลาดที่ 2 ที่พบใน Google+ เวอร์ชันอัปเดทเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้กว่า 52.5 ล้านคนอาจได้รับผลกระทบจากข้อผิดพลาดนี้ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่จะเปิดให้นักพัฒนาแอปสามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้ แม้โปรไฟล์นั้นจะไม่ได้ถูกทำเครื่องหมายเป็นสาธารณะ
Google ย้ำว่าบริษัทสามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาภายใน 1 สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์นักพัฒนาซอฟต์แวร์ลงมือเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นเวลา 6 วัน
ข้อผิดพลาดบน Google+ นี้ไม่ใช่ข้อผิดพลาดแรก เพราะก่อนหน้านี้ Google เคยยอมรับว่า Google+ มีข้อบกพร่องลักษณะเดียวกันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เวลานั้น Google ระบุว่าพบและแก้ไขปัญหาได้ทันทีที่พบข้อบกพร่องในเดือนมีนาคม 2018 ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่เปิดให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ที่ไม่ได้ตั้งเป็นสาธารณะ ทั้งข้อมูลชื่อผู้ใช้ ที่อยู่อีเมล อาชีพ และวัย
อย่างไรก็ตาม บั๊กครั้งนั้นถูกรายงานว่าส่งผลกระทบน้อยกว่า คือราว 500,000 บัญชี เบื้องต้น Google ยืนยันว่าไม่พบการบุกรุกระบบจากกลุ่มคนอื่น ขณะเดียวกันก็ไม่พบนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถดึงข้อมูลจากบั๊กนี้แล้วนำไปใช้ในทางที่ผิด
อาจเป็นเพราะการประกาศพบบั๊ก 2 ตัวซ้อนในเวลา 2 เดือน เจ้าพ่อเสิร์ชเอนจิ้นจึงเร่งกำหนดการปิดตัว Google+ ให้เร็วขึ้นเป็นเดือนเมษายน 2019 จากช่วงก่อนหน้านี้ที่วางแผนจะปิดตัว Google+ ในเดือนสิงหาคม โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะไม่สามารถเข้าถึง API ได้ในช่วง 90 วันถัดไป
เหตุผลของการปิดตัว Google+ คือการใช้งานที่ต่ำ ทำให้ Google ตัดสินใจปิดบริการเพื่อให้บริษัทมีเวลาจัดการกับความท้าทายอื่นที่รออยู่ในธุรกิจหลักของบริษัท.
