โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Glass House & Houseplant ปลูกต้นไม้ในเรือนกระจก

SCGExperience

เผยแพร่ 10 พ.ย. 2560 เวลา 09.04 น. • Daisy

Glass House & Houseplant ปลูกต้นไม้ในเรือนกระจก
ไอเดียการจัดสวนในบ้านแบบกลาสเฮ้าส์ที่มีดีไซน์ทันสมัย บวกกับการเลือกต้นไม้ดูดสารพิษที่สามารถปลูกได้ในกระถาง ช่วยเติมแต่งพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน ให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

       เพราะการจัดสวนไม่ได้มีขีดจำกัดไว้แค่พื้นที่ภายนอกบ้านเท่านั้น แต่ส่วนอินดอร์อย่าง ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องทำงาน ก็เป็นอีกมุมที่เราสามารถเติมแต่งพื้นที่สีเขียวเข้าไปช่วยสร้างสุนทรีย์ทางสายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเสมือนว่าเราได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้วยการปลูกต้นไม้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า Houseplant โดยสวนตัวอย่างที่นำมาให้ชมนี้จัดอยู่ใน Glass House ของโครงการ Arden ลาดพร้าว 71 โดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสวนของ Eden ผสมกับงานศิลปะ และใช้ Glass House เป็นพื้นที่สื่อสารเรื่องราวของคนเมืองที่ผสานกับต้นไม้ได้อย่างมีสไตล์ ออกแบบตกแต่งโดย คุณทรรศนัย ญาณอุบล บริษัท ดิ เอ็มบาสซี่ ออฟ ดีไซน์ เทอริทอร์รี่ จำกัด

       มารู้จัก Houseplant
       Houseplant เริ่มขึ้นในแถบยุโรปซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ต้องมีห้องสำหรับเพาะชำและพักฟื้นต้นไม้ในช่วงที่หิมะตก ซึ่งต้นไม้ที่เก็บรักษาจะเป็นไม้ทรอปิคอลที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่เหน็บหนาว จึงจำเป็นต้องสร้างอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้ต้นไม้เติบโต โดยสร้างเป็นเรือนกระจกใสโปร่งแสง ต่อมาจึงเริ่มขยายพื้นที่เข้ามาสู่ภายในบ้านโดยส่วนใหญ่ต้นไม้ที่จัดวางจะเป็นไม้ใบประดับ ชอบแสงรำไร ซึ่งมีงานวิจัยของ Dr.Billy C. Wolverton ออกมารองรับชนิดของต้นไม้ที่สามารถปลูกในร่มได้ และยังช่วยดูดสารพิษพร้อมฟอกอากาศภายในให้สดชื่น ไม่ว่าจะเป็นสารอันตราย อาทิ ฟอร์มัลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทธิรีน เบนซิน แอมโมเนีย ไซลีน พาทูลีน คาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งต้นไม้ดูดสารพิษเหล่านี้เรียกว่า Air Purifying Houseplant
       ต้นอะไรปลูกในบ้านได้
ไม่น่าเชื่อว่าต้นไม้ในเมืองไทยหลากชนิดจะเป็นต้นไม้ที่สามารถดูดสารพิษ ล้วนแต่เป็นต้นไม้ใกล้ตัว ดูแลง่าย และคนไทยคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็น เฟิร์นตุ๊กแก เฟิร์นสไบนาง เฟิร์นเขากวาง สับปะรดสี ลิ้นมังกร เข็มสามสี เคราฤๅษี ฟิก ซานาดู เข็มริมแดง วาสนา พลูด่าง ว่านหางจระเข้ สนฉัตร เป็นต้น การปลูกต้นไม้ในบ้านจำเป็นต้องปลูกในกระถางเพื่อให้ง่ายในการโยกย้ายตำแหน่ง และเพื่อความสะดวกเมื่อต้องยกกระถางไปรับแสงแดดธรรมชาติเพื่อให้ต้นไม้ที่ปลูกปรับตัวเข้าได้อย่างเหมาะสมและมีความแข็งแรง ซึ่งแสงธรรมชาติจะช่วยฆ่าเชื้อราในดินอันเกิดจากสภาพอากาศที่อับชื้นภายในห้อง
 

       สร้าง Glass Houseให้ Houseplant
       แม้เมืองไทยจะเป็นเมืองร้อน แต่ก็สามารถสร้างเรือนกระจกสวยๆ ให้เป็นบ้านต้นไม้ได้ โดยต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับอุณหภูมิภายใน เนื่องด้วยกระจกใสกักเก็บความร้อนได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นจึงควรสร้างอุณหภูมิที่พอเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยทั้งคนและต้นไม้ ประมาณ 20- 25 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อาจจะกันความร้อนด้วยการติดฟิล์มที่กระจกใส  เลือกใช้กระจกเทมเปอร์ที่มีความหนา หรือใช้กระจกเขียวประกบคู่เว้นช่อง ก็จะช่วยกันความร้อนได้อีกทาง และอาจจะป้องกันอีกชั้นด้วยม่านเปิดปิด โดยหลบเลี่ยงการใช้ผ้าเป็นวัสดุที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาความชื้นและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
       ตกแต่งอย่างไรให้สวย
       Glass House ของโครงการ Arden ลาดพร้าว 71 ไม่ได้สื่อเพียงแค่การเป็นเทรนด์ของการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังนำเสนอการจัดสวนในพื้นที่อินดอร์ที่สามารถใช้งานได้จริง โดยเลือกปลูกต้นไม้ในกระถาง จัดวางใน Glass House หรือเรือนกระจกใสขนาด 3 x 6 เมตร ตกแต่งให้เป็นห้องทำงานส่วนตัวที่เก็บเรื่องราวจากการท่องเที่ยว สะสมรวมอยู่กับต้นไม้ที่จัดวางอยู่ทั่วทุกมุม โดยเลือกวางต้นไม้ในตำแหน่งที่ต้องได้รับแสงธรรมชาติอย่างริมผนังกระจกใส ในส่วนที่แสงส่องถึงน้อยก็จัดเป็นมุมนั่งเล่น สื่อถึงการใช้งานได้จริง การจัดวางต้นไม้เลือกแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ต่ำ กลาง สูง และห้อยประดับแบบ Hanging โดยเลือกใช้เคราฤๅษี ไม้รากอากาศโทนสีเทาเขียวห้อยเรียงเป็นแผง ประดับด้วยหลอดไฟวินเทจดูน่าสนใจ พื้นห้องสร้างให้ดูเป็นธรรมชาติด้วยอิฐมอญ ปูเรียงเป็นลายก้างปลาดูดิบเท่แบบไม่ได้ปรุงแต่งใดๆ มากมาย

       ดูแลสวนในบ้าน
       สุดท้ายคือการดูแลต้นไม้อย่างไรให้อยู่ทนนาน ตามธรรมชาติของต้นไม้ทุกชนิดนั้นจะต้องสังเคราะห์แสงโดยใช้แสงอาทิตย์ การจัดวางต้นไม้ในบ้านจึงควรดูตำแหน่งของแสงแดดด้วย อย่างน้อยต้องมีแสงส่องถึงไม่ต่ำว่า 50% ในแต่ละวัน การให้น้ำขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ อย่างแคคตัสและไม้อวบน้ำจะต้องการน้ำน้อยและไม่ชอบความชื้น ต่างจากเฟิร์นที่ต้องการความชุ่มชื่นในการเติบโต ทั้งนี้ควรมีถาดรองก้นกระถางป้องกันน้ำไหลซึมเลอะเทอะส่วนอื่นๆ ของบ้านด้วย    
ขอบคุณสถานที่:
Arden ลาดพร้าว 71 โดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
โทร.02-316-2222
www.ananda.co.th

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น