โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

Game of thrones ซีซัน 8 EP.6 พัฒนาการที่เติบโต เข้มแข็ง และแสนเจ็บปวด ของตัวละครหลักที่ต่อสู้กันมา 8 ปีเต็ม

THE STANDARD

อัพเดต 20 พ.ค. 2562 เวลา 09.17 น. • เผยแพร่ 20 พ.ค. 2562 เวลา 09.17 น. • thestandard.co
Game of thrones ซีซัน 8 EP.6 พัฒนาการที่เติบโต เข้มแข็ง และแสนเจ็บปวด ของตัวละครหลักที่ต่อสู้กันมา 8 ปีเต็ม
Game of thrones ซีซัน 8 EP.6 พัฒนาการที่เติบโต เข้มแข็ง และแสนเจ็บปวด ของตัวละครหลักที่ต่อสู้กันมา 8 ปีเต็ม

**บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์**

 

ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร ทันทีที่บทสรุปสุดท้ายของมหาสงครามชิง ‘บัลลังก์เหล็ก’ ใน Game of Thronesซีซัน 8 EP.6 สิ้นสุดลง ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า นี่คือหนึ่งในซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างตัวละคนที่หลายคนทั้งรักและชังได้อย่างน่าประทับใจที่สุดให้กับวงการโทรทัศน์

 

THE STANDARD POP ขอพาทุกคนย้อนไปดูพัฒนาการของบรรดาตัวละครสำคัญ ที่ต่างต้องต่อสู้ข้ามผ่านความเจ็บปวด และสูญเสียนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่จะได้สลักชื่อเอาไว้ในความทรงจำของคนดูทุกคน เพื่อเป็นบทอำลาน่าจดจำที่พวกเขาสร้างเอาไว้ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา

 

อาร์ยา สตาร์ก เด็กสาวที่เกลียดการเป็น ‘เจ้าหญิง’ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักรบ พลัดพรากจากพี่น้อง เจ้าคิดเจ้าแค้น มี ‘ลิสต์’ รายชื่อคนที่ทำร้ายครอบครัวของเธอที่ต้องกำจัดให้ได้ ตอนหลังได้ฝึกวิชาลอบสังหารจนกลายเป็น ‘นักฆ่าไร้หน้า’ และไล่จัดการคนในลิสต์อย่างเลือดเย็น

 

ในซีซัน 8 ได้กลับมาเจอพี่น้องก่อนเริ่มสงครามกับไวต์วอล์กเกอร์ ณ แดนเหนือ เธอเติบโตเป็น ‘สาว’ เต็มตัว มีทักษะเคลื่อนไหวโดยไม่มีใครรู้ตัว จนเป็นคนสำคัญที่ปิดฉากสงครามกับไนต์คิงได้สำเร็จ ตอนหลังได้เดอะฮาวด์พูดเตือนใจจนวางบัญชีแค้นกับเซอร์ซีลงได้ สุดท้ายกำลังออกเดินทางไปสำรวจฝั่งตะวันตก ณ ดินแดนที่แผนที่สิ้นสุด

 

ซานซา สตาร์ก ในตอนแรกเธอเป็นเพียง ‘เจ้าหญิง’ แสนบอบบางแห่งแดนเหนือที่มีความฝันอยากเป็นราชินี หลายครั้งที่เธอต้องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และหลังจากถูกโบยตีด้วยชะตากรรมอันแสนเศร้าจากบรรดาสามีจิตใจบิดเบี้ยว เธอก็เติบโตกลายเป็น ‘หญิงแกร่ง’ ที่ฉลาด รอบคอบ และเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

 

ซานซาเป็นหญิงสาวไม่กี่คนที่กล้าต่อกับแดเนริส ทาร์แกเรียนแบบเปิดเผย จนตอนหลังแดนเหนือได้เป็นดินแดนอิสระที่ไม่ขึ้นตรงกับอาณาจักรใด ซานซาก็กลายเป็นราชินีผู้สง่างาม แข็งแกร่งด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ต้องวาดฝันถึงงานวิวาห์กับเจ้าชายคนใดอีกต่อไป

 

แบรนดอน สตาร์ก จากเจ้าชายน้อยแสนซนที่หลงรักการปีนป่ายเป็นชีวิตจิตใจ หลังผ่านการเดินทางอันแสนยาวนาน เขาได้กลายเป็นผู้สืบทอดของ ‘อีกา 3 ตา’ ผู้หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง แววตาเรียบเฉย ท่าทีนิ่งสงบ พูดน้อย ยอมรับทุกความเป็นไป

 

หลังจากสงครามทุกอย่างสิ้นสุด ถึงแม้จะไม่มีความต้องการอำนาจสูงสุด แต่แบรนดอนได้รับเลือกจากผู้นำที่ยังหลงเหลืออยู่ ในฐานะ Brandon The Broken ‘กษัตริย์’ แห่ง 6 อาณาจักร (ไม่นับแดนเหนือ) คนพิการที่มีหัวใจเข้มแข็งไม่แพ้นักรบคนใด

 

จอน สโนว์ ลูกนอกสมรสที่ไม่มีใครเหลียวแล และไม่เคยมองเห็นคุณค่าในตัวเอง จอนฝึกฝนและเก็บประสบการณ์กับผองเพื่อนกลุ่มไนต์วอตช์ ณ The Wall สูงตระหง่าน จนกลายมาเป็น ‘ลอร์ด’ แห่งแดนเหนือ ที่มักจะถูกคนดูแซวอยู่บ่อยๆ ด้วยคำว่า “You know nothing” ที่ตอนหลังรู้ความจริงว่าเขาคือเอกอน ทาร์แกเรียน ทายาทผู้สืบสายเลือดกษัตริย์ที่มี ‘สิทธิ’ ในการขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์เหล็กมากที่สุด

 

แต่จอนมีลักษณะของ ‘นักรบ’ มากกว่าผู้นำ เขาเก่งเรื่องรบแต่ไม่เด็ดขาดเวลาตัดสินใจ และยืนยันว่าจะ ‘ภักดี’ ต่อแดเนริสไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนสุดท้ายเขากลายเป็นคนปลิดชีวิตราชีนีที่เขารักด้วยตัวเอง และถูกตัดสินให้กลับไปอยู่กับกลุ่มไนต์วอตช์ ก่อนออกเดินทางพร้อมกับประชาชนคนเถื่อน และโกสต์สุนัขผู้ภักดีไปยังดินแดนเหนือสุดนอก The Wall

 

แดเนริส ทาร์แกเรียน หญิงสาวที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับคาร์ล โดรโก ผู้นำนักรบโดธรากี แต่เมื่อผ่านเหตุการณ์เลวร้ายหลายครั้ง รวมทั้งความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น เธอได้กลายมาเป็น ‘คาลีซี’ ราชินีสุดแกร่ง สวยสง่า แม่ของมังกรทั้ง 3 ตัว ด้วยความหวังที่ว่าจะสร้างโลกที่สงบสุข และยุติธรรมจากอำนาจที่เธอมี

 

เธอตัดสินใจยกกองทัพมาช่วยจอน สโนว์ทำสงครามกับไวต์วอล์กเกอร์ ณ แดนเหนือที่ทำให้เธอเริ่มสูญเสียความเป็นตัวเอง แม้ตอนหลังเธอจะได้ยืนอยู่หน้าบัลลังก์เหล็กที่ใฝ่ฝัน แต่ก็ถูกความแค้นอันแสนเจ็บปวดครอบงำ จนกลายเป็นราชินีที่คิดจะพิชิตทุกอาณาจักรด้วยความเด็ดขาด และต้องพบกับจุดจบอันแสนเศร้าด้วยน้ำมือคนที่เธอรัก

 

เจมี แลนนิสเตอร์ ในวันแรกเขาคืออัศวินหนุ่มผมทองที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง พร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูกและคนรัก แต่หลังจากเสียมือไปหนึ่งข้าง เขาก็เริ่มเรียนรู้ถึงความสวยงามของมิตรภาพ รู้จักช่วยเหลือและเห็นใจคนอื่น ถึงขนาดหันหลังให้เซอร์ซี และออกเดินทางมาสู้ศึกร่วมกับชาวเหนือเพียงลำพัง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกปกป้องผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เขารักด้วยชีวิตอยู่ดี

 

เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภาพประจำตัวของเธอคือราชินีผู้เข้มแข็งแห่งคิงส์แลนดิ้งที่ไม่เคยหวาดหวั่นต่อสิ่งใด กระทั่งในวาระสุดท้ายที่รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดปกป้องเธอจากพลังอำนาจของ ‘แม่มังกร’ ได้อีกต่อไป เราถึงได้เห็นแววตาหวาดหวั่น และเสียงอันสั่นเครือ ที่ขอร้องให้เจมีปกป้องลูกคนสุดท้ายของพวกเขาเอาไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะจบชีวิตในอ้อมกอดของกันและกัน ภายใต้ซากปรักหักพังของคิงส์แลนดิ้งที่ไม่เหลือชิ้นดี

 

บริแอนน์แห่งทาร์ธ นักรบหญิงผู้ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ที่เคยได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียม จนกระทั่งเจมี แลนนิสเตอร์แต่งตั้งให้เธอเป็น ‘เซอร์’ บริแอนน์แห่งทาร์ธ อย่างสมเกียรติ มีความรักและสัมพันธ์ที่ลึกซึงกับเจมี จนตอนสุดท้ายกลายเป็นคนบันทึก ‘เรื่องราว’ ในวาระสุดท้ายของชายที่เธอรักด้วยตัวเอง

 

แซมเวลล์ ทาร์ลีย์ ทายาทนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีความสุขเมื่อถูกบังคับให้จับดาบ แต่รู้สึกเบิกบานทุกครั้งที่ได้ศึกษาหาความรู้ด้วยการอ่านหนังสือ และพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดกับทุกคนเสมอ โดยเฉพาะในตอนเลือกกษัตริย์องค์ใหม่ เขาคือคนเดียวที่เสนอว่าควรให้ประชาชนได้เลือกผู้นำด้วยตัวเอง ถึงแม้ตัวเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับ และลงท้ายด้วยการถูกหัวเราะเยาะก็ตาม

 

แซมคือตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์แต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างหลากหลาย และทุกคนจะแสดงศักยภาพสูงสุดได้เมื่อถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่เหมาะสม เช่นเดียวกับตัวเขา ที่เปลี่ยนจากหนุ่มอ้วนผู้อ่อนแอ จนได้รับการยอมรับสูงสุดในฐานะ ‘แกรนด์เมสเตอร์’ ผู้รอบรู้

 

ทีเรียน แลนนิสเตอร์ คนแคระผู้เสพติดการร่ำสุรา และหาความสุขกับบรรดาหญิงบริการทั่วราชอาณาจักร ในอดีตเขาคือคนฉลาดที่ไม่เคยใช้ความสามารถนั้นเพื่อคนอื่น แต่หลังจากผ่านความเจ็บปวดมากมายในชีวิต เขากลายมาเป็นมือขวาที่รักและซื่อสัตย์กับแดเนริส ทาร์แกเรียน แบบสุดหัวใจ ก่อนจะโยนเข็มกลัดหัตถ์ราชินีทิ้งด้วยความเจ็บปวด เมื่อยอมรับว่าเธอไม่ใช่คนนำพาความสงบสุขมาสู่ประชาชนได้อีกต่อไป

 

ตอนหลังเขาเป็นคนเสนอชื่อแบรนดอนให้เป็นกษัตริย์ และสร้างธรรมเนียมใหม่ว่ากษัตริย์คนต่อไปต้องมาจากการ ‘เลือกตั้ง’ จากผู้นำของอาณาจักรต่างๆ และได้รับเลือกจากแบรนดอนให้กลายเป็น ‘หัตถ์ของราชา’ อีกครั้ง เริ่มต้นหน้าที่ด้วยการนำประชุมนโยบายฟื้นฟูอาณาจักร ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงการพัฒนา ‘ซ่อง’ ที่นำไปสู่การถกเถียงในสภามากมาย แต่ก็นับว่าเป็นความขัดแย้งที่ดูมี ‘ความหวัง’ กับประชาชนมากที่สุดแล้ว

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0