โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Game Boy เครื่องเล่นเกมในตำนานที่ถูกครูยึดเป็นประจำ

THE STANDARD

อัพเดต 17 ต.ค. 2561 เวลา 01.14 น. • เผยแพร่ 16 ต.ค. 2561 เวลา 17.01 น. • thestandard.co
Game Boy เครื่องเล่นเกมในตำนานที่ถูกครูยึดเป็นประจำ
Game Boy เครื่องเล่นเกมในตำนานที่ถูกครูยึดเป็นประจำ

“สอบให้ได้คะแนนดีๆ เดี๋ยวจะซื้อเกมบอยให้เป็นรางวัล”

 

คือหนึ่งในประโยคคลาสสิกที่ผู้ปกครองหลายคนใช้เป็นแรงจูงใจให้เด็กๆ ตั้งใจอ่านหนังสือ จน ‘Nintendo Game Boy’ ผู้บุกเบิกเครื่องเล่นเกมแบบพกพาเมื่อ 25 ปีที่แล้ว กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อคะแนนสอบที่ก้าวกระโดดของเด็กนักเรียนในยุคนั้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

เพราะใครก็ตามที่มีเจ้าเครื่องเล่นเกมสีเทาทรงสี่เหลี่ยมหนาเตอะไว้ในครอบครอง แทบไม่ต่างอะไรจากการพกสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดมาอวดโฉมให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนอิจฉาตาร้อน และถ้าเห็นใครก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่ใต้โต๊ะ ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเด็กคนนั้นน่าจะกำลังเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยบนจอขาวดำขนาด 4.7×4.3 เซนติเมตร อยู่แน่ๆ

 

เป็นเหตุผลให้เกมบอยคือเป้าหมายอันดับต้นๆ (พอๆ กับหนังสือการ์ตูน) ที่ครูประจำชั้นต้องขอยึดไว้ก่อน แล้วค่อยคืนให้หลังเลิกเรียน หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็จะมีเหตุการณ์ที่เครื่องเล่นเกมของเราไปตกอยู่ในมือของลูกๆ หลานๆ ของคุณครูคนนั้นให้เห็นและเจ็บใจเล่นอยู่เป็นประจำ

 

ต้นกำเนิดของตำนานบทนี้มาจากที่ Nintendo ต้องการต่อยอดความสำเร็จจากเครื่อง Game & Watch ด้วยการพัฒนาเครื่องเล่นแบบพกพา ที่สามารถเปลี่ยนตลับเกมได้ และมีกราฟิกสวยงามมากขึ้น จนเกมบอยรุ่นแรกออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1989

 

เปิดตัวด้วยเกมคุณภาพที่พัฒนามาจากแพลตฟอร์มเครื่องเล่นเกมอื่นๆ ทั้ง Super Mario Land, Alleyway, Baseball, Yakuman ฯลฯ รวมทั้ง Tetris เกมต่อบล็อกในตำนานที่แสนเรียบง่าย แต่ทำยอดขายทั่วโลกไปมากถึง 30.26 ล้านตลับ รวมถึงซีรีส์ Pokémon (1996) ที่ฮิตถล่มทลายจากเวอร์ชันเกม จนทีมผู้สร้างต้องนำมาพัฒนาเป็นเวอร์ชันการ์ตูนขนาดยาวในปีต่อมา

 

ระหว่างทางนั้น Nintendo ก็ได้พัฒนาเกมบอยขึ้นมาอีกหลายรุ่น ตั้งแต่ Game Boy Pocket (1996) ที่ปรับให้มีขนาดเล็กลง, Game Boy Light (1998) ที่เพิ่มหลอดไฟในหน้าจอ ซึ่งออกมาในจำนวนจำกัด และกลายเป็นของสะสมหายากมาจนถึงตอนนี้ จนมาถึงการอัปเกรดจากภาพขาวดำมาเป็นภาพสีใน Game Boy Colour (1998) ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด จนทำยอดขายรวมทุกรุ่นไปมากถึง 118.69 ล้านเครื่องทั่วโลก

 

ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงยกเครื่องครั้งสำคัญกับ Game Boy Advance ในปี 2001 ที่อัปเดตกราฟิกจากภาพ 8 Bit มาเป็น 32 Bit ที่ภาพสวยขึ้นจากเดิมแบบก้าวกระโดด และทำยอดขายทั่วโลกไปทั้งหมด 81.51 ล้านเครื่อง ไปจนถึง Game Boy Advance SP รุ่นฝาพับในปี 2003 พร้อมกับยอดขาย 43.57 ล้านเครื่อง

 

และถือเป็นการปิดตำนานซีรีส์ Game Boy อย่างเป็นทางการ หลังจาก Nintendo หันไปพัฒนาเครื่องเล่นเกมพกพาแบบ Dual Screen หรือ Nintendo DS อย่างจริงจัง ต่อด้วยเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Nintendo Switch ที่เริ่มออกมาตีตลาดตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0