แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทำให้กิจกรรมการค้ากลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง โดยเฉพาะความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ ช่วยสนับสนุนให้ความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือขยายตัวสูง เห็นได้จากดัชนีค่าระวางเรือเทกอง BDI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มเดินเรือและราคาหุ้นปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยเฉพาะ RCL หรือ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) ที่กำไรสุทธิไตรมาส 1/64 ทำได้ 2,941.58 ล้านบาท สูงกว่ากำไรไตรมาส 4/63 และกำไรของปี 2563 ทั้งปี นับเป็นกำไรสุทธิที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (1 ม.ค. – 24 มิ.ย. 64) ก็ปรับตัวขึ้นแล้ว 241.55%
ซึ่งหากมองย้อนไปในอดีต RCL ทำผลงานได้ไม่ดีนัก กำไรสุทธิปี 2561 และ 2562 ขาดทุน 357.74ล้านบาท และ 491.75ล้านบาท ตามลำดับ มีช่วงครึ่งหลังปี 2563 ที่ค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ภาพรวมกำไรสุทธิปี 2563 ของ RCL พลิกกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากประเด็นดังกล่าว Wealthy Thai จึงเกิดข้อสงสัยว่า หาก DCA หุ้น RCL โดยใช้เงินซื้อหุ้นเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ปัจจุบันผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร
จากข้อมูลของ SETSMARTพบว่า หากเรา DCA หุ้น RCL ปัจจุบันจะมีหุ้นทั้งหมด 61,119.00หุ้น โดยมีต้นทุนเฉลี่ยหุ้นละ 5.31บาท มูลค่าพอร์ตปัจจุบันจะอยู่ที่ 2,964,271.50บาท ได้กำไร 2,639,482.98 บาท หรือเพิ่มขึ้น 812.68%และได้รับเงินปันผล 32,421.85 บาท
อย่างไรก็ตาม การ DCA หุ้น RCL เป็นเพียงตัวอย่างการลงทุนเท่านั้น ผลตอบแทนที่ปรับขึ้นสูงกว่า 800% เกิดจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในระยะสั้นจากปัจจัยบวกเฉพาะตัวที่เกิดจากค่าระวางเรือซึ่งเป็นราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และเมื่อหมดปัจจัยบวกนี้ผลประกอบการและราคาหุ้นของ RCL จะเป็นอย่างไร ดังนั้นนักลงทุนควรพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ส่วนความเห็นจากนักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุว่า ค่าระวางเรือแตะระดับสูงสุดอีกครั้งจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ตึงตัวตอนใต้ของจีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้เกิดปัญหาความล่าช้าท่าเรือแออัดและจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ว่าง โดยการดำเนินงานลดลงมาอยู่ที่ 30% ของระดับปกติ เพราะหน่วยงานควบคุมกิจกรรมเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ตึงตัวจะเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เพราะการฉีดวัคซีน Covid-19 ยังไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ดังนั้น จึงคาดว่าค่าระวางเรือของ RCL จะยังอยู่ในระดับสูงที่ 450 ดอลลาร์สหรัฐฯ/TEU ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564
คงคำแนะนำ “ถือ” และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นจาก 42 บาท เป็น 60 บาท คำนวณด้วย PBV ที่สูงขึ้นเป็น 1.8 เท่า (+4SD) และ BVPS ปี 2565-66 เฉลี่ยที่ 32.20 บาท
