โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ส่องอนาคต BANPU-BPP กับเส้นทางที่สวยหรูในปี 64

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 03.12 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2564 เวลา 09.08 น. • Maratronman

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มิ.ย.64) ราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินปรับขึ้นถ้วนหน้า จาก ราคาถ่านหิน ในตลาดโลปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีราคาถ่านหิน BJI อยู่ที่ 125.4 เหรียญสหรัฐต่อตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับขึ้น 50% จากสิ้นปี 63 ที่ระดับ 84.5 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากจุดต่ำสุดในไตรมาส 3/63 ที่กว่า 40 เหรียญสหรัฐต่อตัน และยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปต่อได้
โดยซัพพลายถ่านหินในตลาดโลกลดลงจากที่ผู้ประกอบการหลายรายหยุดดำเนินการหลังจากรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ อีกทั้งจีนสั่งห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย ขณะที่ความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน หลังควบคุมการระบาดโควิด-19 ได้ดีขึ้น
โดยคุณวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) มีมุมมองว่า จากการที่ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแรงที่ระดับ 127 เหรียญต่อตัน ส่งให้เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.64 ราคาหุ้นของ BANPU หรือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ปรับตัวเพิ่มไปที่ราคา 15.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.97% ดังนั้นจึงเป็นคำถามว่าเมื่อราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นแล้ว และส่งผลสะท้อนราคาหุ้นไปแล้วนั้น จะทำให้ราคาหุ้นไปต่อได้ถึงระดับเท่าไหร่
โดยคุณวิจิตร คาดว่าระดับนี้ราคาหุ้นของ BANPU มีโอกาสที่จะสามารถเล่นไปได้ถึงกรอบราคาที่ 18 บาทต่อหุ้น ด้วยเหตุผลโดยใช้ P/BV ซึ่งตอนนี้ราคาถ่านหินที่ระดับ 127 เหรียญต่อตัน ในอดีตที่ผ่านมาย้อนหลัง 5 ปี ราคาซื้อขายกันที่ P/BV ที่ 1.4 เท่า ซึ่งในรอบนี้โอกาสทางธุรกิจกำลังดีขึ้น จากสัญญาณของธุรกิจพลังงานสะอาดที่จะเข้ามาเสริม ก็ถือเป็นอีกประเด็นที่จะช่วยหนุนราคา
ทั้งนี้อย่างน้อยหากราคาหุ้นกลับไปเล่นโซนที่ P/BV ที่ 1.4 เท่า ก็จะได้ราคาถัดไปที่ 18 บาทต่อหุ้น เพราะขณะนี้ซื้อขายกันที่ P/BV ระดับ 1.2 เท่า อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่า BANPU ไม่ได้มีแค่ธุรกิจถ่านหิน แต่ยังมีธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐฯ ซึ่งโดยปกติแล้วราคาก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามราคาน้ำมัน แต่จะช้ากว่า 3-6 เดือน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงทำให้ราคาก๊าซมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นปัจจัยบวกต่อเนื่องอีก
ขณะที่มุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด ระบุว่า ความต้องการที่แข็งแกร่งจากโรงไฟฟ้าและซัพพลายตึงตัวจะหนุนให้ดัชนี NEX ขึ้นสู่ 119 เหรียญต่อตันสูงสุดตั้งแต่ก.ค. 61 ซึ่ง 26% ของยอดขาย BANPU มีการล๊อคราคาแล้ว สะท้อนอัพไซด์การขายถ่านหินในปีนี้ ปรับคำแนะนำสู่ ซื้อ และปรับเป้าหมายเป็น 16 บาท (จาก 13.0บาท) คาดตลาดจะปรับคาดการณ์กำไรขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยความต้องการจากการผลิตไฟฟ้าจากซัพพลายถ่านหินในจีนตึงตัว และห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย ทำให้ราคาถ่านหินภายในจีนเพิ่มสู่ 150 เหรียญต่อตัน (5,500kcal) และดัชนี NEX 119เหรียยต่อตัน (6,300kcal) ซึ่งผู้ผลิตไฟฟ้าในจีนสต๊อกถ่านหินพอต่อความต้องการในฤดูร้อน ขณะที่สต๊อกที่ท่าเรือถ่านหิน Qinhuangdao อยู่ที่ 4.7mt ในพ.ค. สะท้อนความตึงตัวในตลาด แม้ว่าความกังวลด้านสภาพแวดล้อม ตลาดที่ตึงตัวและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะหนุนราคาถ่านหินในปีนี้
อย่างไรก็ตามนักลงทุนต้องอย่าลืมว่า BANPU ยังมีบริษัทลูกอย่าง BPP หรือ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ประกอบธุรกิจพลังงานสะอาด โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/64 โดยก่อนหน้านี้ BPP รายงานการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Nakoso (IGGC) ประเทศญี่ปุ่น กำลังผลิต 72.8 เมกะวัตต์(ตามสัดส่วนการถือหุ้น)
โดยจุดเด่นของโครงการดังกล่าวอยู่ที่ Strategic Partner ของญี่ปุ่น ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี Integrated Gasification Combined Cycle (ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต) โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มผลิตในช่วงกลาง เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ลดผลกระทบจากการเลื่อนดำเนินการผลิตโครงการ SLG ประกอบกับธุรกิจโรงไฟฟ้าในไทยและภูมิภาค รวมถึงโรงไฟฟ้า CHPs ยังอยู่ในช่วง High season ของความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำ เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ โดยผลประกอบการไตรมาส 1/64 คิดเป็น 24.5% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ที่เราคาดไว้ที่ 4,226 ล้านบาท
ดังนั้น ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 64 และราคาเป้าหมายไว้ที่ 21.8 บาท (%Upside18.5%) โดยผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี ยังคงได้ประโยชน์จากโครงการใหม่ที่ทยอยเริ่มดำเนินการผลิต ซึ่งนอกเหนือจากโครงการ IGGC ในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันการก่อสร้างโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (SLG) ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จทั้ง 2 หน่วยผลิต และอยู่ระหว่างการทดสอบการผลิต บริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส3/64 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง ทำให้เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่ม BANPU เข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศออสเตรเลียกำลังผลิตรวม 167MW ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นในส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 2.3 พันล้านบาท โดย เบื้องต้นเราคาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีกำไรราว 90 ล้านบาทต่อปี และคิดเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายของ BANPU ราว 0.10 บาท และ BPP ราว 0.02 บาท
สำหรับคำแนะนำพื้นฐานคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะสร้าง positive sentiment ต่อราคาหุ้น BANPU และ BPP โดยเรายังคงคำแนะ"ซื้อเก็งกำไร" ต่อ BANPU (อยู่ระหว่างการทบทวนราคาเป้าหมาย) และ "ซื้อ" ต่อ BPP (ที่ราคาเป้าหมาย 22 บาท)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0