โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

GLS-Class ที่สุดแห่ง SUV หรู

Manager Online

อัพเดต 26 พ.ค. 2562 เวลา 10.51 น. • เผยแพร่ 26 พ.ค. 2562 เวลา 10.51 น. • MGR Online

ช่วงนี้ดูเหมือนว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเอาจริงเอาจังกับการรุกตลาดเอสยูวีอย่างมาก เพราะนอกจากต้นแบบ GLB ที่จะเตรียมกลายมาเป็นรุ่นจำหน่ายจริงที่แทรกกลางระหว่าง GLA กับ GLC แล้ว พวกเขายังวนขึ้นไปรุกตลาดระดับไฮเอนด์ด้วยทางเลือกซูเปอร์หรูอย่างไลน์อัพใหม่อย่าง GLS-Class อีกด้วย เรียกว่าเตรียมท้าชนกับ BMW X7 อย่างเต็มที่

GLS ถือเป็นผลผลิตใหม่ล่าสุดที่ถูกเปิดตัวออกมาในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2019 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาและนับเป็นเอสยูวีรุ่นใหญ่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เท่าที่มีขายอยู่ในตลาดโดยทั้งนี้ทั้งนั้นชื่อของ GLS เป็นการเปลี่ยนแปลงมาจาก GL-Class ที่มีขายอยู่แล้วในตลาด และผ่านมา 2 เจนเนอเรชันนับจากปี 2007 และเมื่อถึงคราวที่มีการเปลี่ยนโฉมของเจนเนอเรชันที่ 3 ทางเบนซ์ก็เลยเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ พร้อมกับการเปลี่ยนโฉมที่มีขนาดตัวถังยาวขึ้นจากเดิม 77 มิลลิเมตรเป็น 5,207 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 22 มิลลิเมตรเป็น 1,956 มิลลิเมตรโดยที่ระยะฐานล้อยาวขึ้นอีก 60 มิลลิเมตรโดยประมาณอยู่ที่ 3,135 มิลลิเมตร

เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมในรหัสตัวถัง X166 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว เราจะพบกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะในแง่ของหน้าตาซึ่งรุ่นใหม่หันมาเน้นเส้นสายที่โค้งมนและการออกแบบให้มีโค้งเว้าบนโป่งซุ้มล้อที่เปรียบเสมือนกับมัดกล้ามของตัวรถ จึงทำให้ดูมีความบึกบึนขึ้น โดยที่ตัวถังมาในแบบ 5 ประตูมีความเพรียวลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานหรือ Cd อยู่ที่ 0.32 และด้านในมีเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่งสามารถปรับเบาะนั่งให้พับลงได้ด้วยไฟฟ้า และเมื่อเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ถูกพับลงมานั้นจะมีความจุของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายเพิ่มขึ้นเป็น 2,400 ลิตรเลยทีเดียว

ช่วงแรกของการทำตลาดจะมีทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล ซึ่งแบบแรกจะมากับเทคโนโลยี EQBoost ที่มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยในการขับเคลื่อนช่วงเวลาสั้นๆ คือ GLS450 4MATIC ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ 6 สูบ 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 367 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 51.2 กก.-ม. พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 22 แรงม้า ตามด้วยรุ่น GLS580 4MATIC ใช้เครื่องยนต์วี8 รุ่นใหม่ที่สามารถผลิตกำลังออกมาได้ 489 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 71.2 กก.-ม. พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 22 แรงม้าเพื่อช่วยในการขับเคลื่อน

ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลจะเน้นทำตลาดยุโรปเป็นหลักมีทำตลาดด้วยกัน 2 ทางเลือก คือ GLS350d 4MATIC GLS400d4MATICซึ่งใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงในตระกูล OM656 ซึ่งรุ่นแรกจะมีกำลัง 286 แรงม้า และอีกรุ่นมีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 330 แรงม้า

ทุกรุ่นใช้ระบบช่วงล่างแบบถุงลมหรือ AIRMATIC และมีที่มีติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาใหม่คือระบบควบคุมการทรงตัว หรือ E-Active Body Control ซึ่งจะช่วยให้การขับขี่ทั้งบนออนโรดและออฟโรดสามารถให้ความมั่นใจได้ เพราะจะมีระบบ Road SurfaceScan เพื่อตรวจสอบสภาพเส้นทางข้างหน้า ก่อนที่จะสั่งปรับการทำงานของระบบช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางซึ่งระบบใหม่นี้จะใช้กับ GLS-Class เป็นรุ่นแรกเพราะเป็นระบบที่ต้องการระบบไฟฟ้าพื้นฐานตัวรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งใน GLS-Class มีการใช้เทคโนโลยีระบบไฟฟ้าในตัวรถรุ่นใหม่แบบ 48V

ใครที่สนใจก็เตรียมตัวกันได้เลย เพราะในตลาดโลกจะเริ่มทำตลาดและส่งมอบให้กับลูกค้ากันตั้งแต่ปลายปีนี้ ส่วนลูกค้าเมืองไทย ก็น่าจะมีโอกาสได้สัมผัสด้วยเช่นกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0