ทาง CNBC ได้รายงานว่าบริษัท Facebook จะสร้างแว่น AR (แว่นที่จำลองบรรยากาศรอบข้างแบบ 3 มิติในพื้นที่จริง) ที่มีชื่อว่า "Orion" ออกมา และนอกจากแว่นตัวนี้จะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องง้อสมาร์ทโฟนแล้ว Mark Zuckerberg ยังมีความเชื่อว่ามันอาจจะมาแทนที่สมาร์ทโฟนได้ในเร็วๆ นี้อีกด้วย โดยทาง Facebook เผยว่าได้พัฒนาโมเดลแรกมากว่า 2 ปีแล้ว และตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะวางจำหน่ายในปี 2023 หรืออย่างช้าที่สุดก็ภายในปี 2025
ภาพจาก : https://markets.businessinsider.com/news/stocks/facebook-ray-ban-ar-glasses-orion-luxottica-agios-2019-9-1028532006
“แว่นตานี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับสายและอ่านข้อมูลในหน้าจอเล็กๆ หรือแม้แต่การไลฟ์สตรีมกับเพื่อนๆ ในโซเชียลมีเดียก็สามารถทำได้เช่นกัน”
และหลังจากที่ CNBC ได้ปล่อยข่าวเรื่อง Orion ไปไม่นานทาง The Information ก็ออกมาแย้งว่าแว่นตาอัจฉริยะตัวแรกของ Facebook นั้นน่าจะเป็น “Stella” เสียมากกว่า ซึ่งเจ้าแว่นตัวนี้น่าจะมีความคล้ายคลึงกับ Snap Spectacle ของ Snapchatอยู่มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะฟังก์ชันการบันทึกวีดิโอด้วยกล้องที่ซ่อนอยู่ในกรอบแว่นหรือการเชื่อมต่อกับมือถือที่กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถืออยู่ และคาดว่าทาง Facebook จะปล่อยออกมาให้เห็นกันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
โฉมหน้าของ Snap Spectacle
ภาพจาก : https://sea.pcmag.com/wearables/14110/snapchat-spectacles
สำหรับตอนนี้ทางFacebook ก็กำลังเร่งดำเนินการพัฒนาในส่วนของ AI ที่เป็นระบบสั่งการด้วยเสียงภายในแว่นตาอัจฉริยะทั้งสองตัวนี้ (โดยการทำงานจะคล้ายคลึงกับ SIRI ของ Apple และ Alexa ของ Amazon) นอกจากนี้ทางบริษัทยังวางแผนว่าจะทดลองสร้างแหวนที่มีชื่อว่า"Agios" ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลและใช้งานได้ง่ายขึ้นจากเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวขึ้นมาใช้ร่วมกันอีกด้วย
เป็นที่น่ากังขากันพอสมควรสำหรับการที่บริษัท Facebook จะผลิตแว่นตาตัวนี้ เพราะหากคุณพอจะจำมือถือเครื่องแรกและเครื่องเดียวของ Facebook ที่พัฒนาร่วมกับ HTC ได้ ก็คงจะเห็นแล้วว่าเมื่อเป็นในเรื่องของฮาร์ดแวร์แล้ว Facebook ไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าเชื่อถือนักสำหรับผู้บริโภค
แต่ถึงอย่างนั้น Mark Zuckerberg และ Facebook ก็ยังมุ่งพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะตัวนี้ต่อไปอย่างมีความหวังว่าชะตากรรมของมันจะไม่จบลงเหมือนอย่าง Facebook Phone ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ได้จับมือกับทางบริษัท Luxottica ที่เป็นเจ้าของ Ray-Ban และแบรนด์แว่นตาชั้นนำอีกมากมาย ในการร่วมกันดีไซน์แว่นตาอัจฉริยะทั้งสองตัวนี้ออกมาให้ดึงดูดใจผู้ใช้มากที่สุด และคาดหวังว่ามันคงจะดีเพียงพอที่จะดึงดูดเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน
