ณ ตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก"เชื้อไวรัสโคโรนา" ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศจีน และล่าสุด ทางการจีนอัปเดตยอดผู้ติดเชื้อ 'ไวรัสโคโรนา' มีจำนวน 2,744 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 80 รายแล้ว
ขณะที่ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เริ่มส่งผลกระทบไปยังหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย เพราะตรงกับช่วงที่ประชาชนชาวจีนออกเดินทางท่องเที่ยว เนื่องในวันหยุดเทศกาลตรุษจีน และไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจีน
แต่ล่าสุด ทางการจีนได้ออกประกาศห้ามให้บริษัทนำเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์ออกนอกประเทศโดดเด็ดขาด เพื่อหยุดการระบาดของโรคปอดสายพันธ์ใหม่นี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งจากประกาศดังกล่าว ได้สร้างความวิตกให้กับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวขาเข้าตลาดจีนของไทยอย่างมาก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกประกาศด่วนตามคำสั่งของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ให้หยุดการระบาดของโรคปอดสายพันธุ์ใหม่อย่างเร่งด่วน โดยกำหนดให้บริษัทนำเที่ยวหยุดจัดทัวร์นำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกไปทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีไข้หวัดซาร์ เมื่อปี 2546 จีนประกาศมาตรการยุติการทำทัวร์ เป็นระยะเวลา 3 เดือนส่วนกรณีครั้งนี้ คาดว่า จะประกาศมาตรการยุติทำทัวร์ในเบื้องต้น เป็นระยะ 3 เดือน คือสิ้นสุดเดือนเม.ย.2563 ดังนั้น จึงประเมินว่า จากการระบาดที่ยังค่อนข้างรุนแรง และยังไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้ ไทยจะสูญเสียนักท่องเที่ยวประมาณ 70% หรือสูญเสียนักท่องเที่ยวประมาณ 1.89 ล้านคน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน – เม.ย.2563 หากรัฐบาลจีนสามารถควบคุมการระบาดได้เร็วขึ้น อาจจะประเมินผลเสียหายอีกครั้ง และต้องหาตลาดอื่นมาทดแทน ซึ่งในช่วงสถานกาณณ์ปกติจะมีนักท่องเที่ยวไปไทยประมาณ 2.7 ล้านคน
CR:Facebook ททท.
ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวแม้จะไม่ครอบคลุมไปถึงพวกที่เดินทางออกไปเยี่ยมญาติ เดินทางท่องเที่ยวกันเอง (เอฟไอที) หรือมาทำธุรกิจ ที่ยังเดินทางได้อยู่ โดยหวังว่า การทำครั้งนี้จะมีระยะเวลา 1-2 เดือน ที่ทางการจีนจะควบคุมได้ ขณะที่ผลกระทบต่อประเทศไทย คาดว่า จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป แค่ในช่วง 2 เดือนนี้ประมาณ 1.2-1.3 ล้านคน ส่งผลกระทบให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปประมาณ 48,000-52,000 ล้านบาท
CR:Facebook ATTA Thailand
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ที่แพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนขณะนี้ ท่าอากาศยานนาชาติทั้ง 4 แห่งของไทย ได้มีการตั้งด่านคัดกรองโรค เข้มงวด ขณะเดียวกันกระทรวงฯก็จะมุ่งเน้นไปยังมัคคุเทศก์ให้สังเกตลูกทัวร์ เกี่ยวกับอาการของผู้ติดเชื้อไวรัส หากมีอาการน่าสงสัยให้รีบแจ้งมาทางส่วนราชการ เพื่อที่จะได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปรับมารักษาในห้องตรวจโรค ซึ่งมั่นใจว่าหน่วยงานสาธารณสุขไทยจะสามารถรับมือได้
CR:Facebook ททท.
อย่างไรก็ดี ได้ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในการสอดส่องดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน ให้ช่วยกันสอดส่องและสังเกตอาการของนักท่องเที่ยว ที่อาจจะมีการสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หากพบนักท่องเที่ยวที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ สามารถแจ้งที่ศูนย์ TAG ที่ประจำอยู่ ณ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และศูนย์ TAG ทุกแห่ง เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้การดูแลรักษาต่อไป
ล่าสุดจากการเปิดเผยของกรมควบคุมโรค พบว่า มีคนไทยติดเชื้อด้วยเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 จำนวน 8 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ ล่าสุดมีอาการหายดีกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย อีก 3 ราย อยู่ระหว่างนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 63 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพอสมควรแล้ว แม้จะมีนักท่องเที่ยวหายไป แต่ยังคงยืนยันเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวเดิม ส่วนจะมีการปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวหรือไม่นั้น ต้องรอประเมินสถานกาณณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะจากปัจจัยเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและสถานกาณณ์ความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย
CR:Pixabay
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เพิ่มขึ้นทุกวัน! เหยื่อ 'ไวรัสโคโรนา' ในจีน ดับพุ่ง 80 ศพ
-จีนชี้ 'ไวรัสโคโรนา' สามารถแพร่เชื้อได้ในระยะฟักตัว
- จีนอัดฉีดเงินก้อนโตต่อสู้ 'ไวรัสโคโรนา'
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
