สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งก็ทำให้หลายฝ่ายประเมินได้ยาก ว่าจะคลี่คลายลงเมื่อใด เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยัคงเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โดยการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นฟันเฟืองในการกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทย
ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประเมินผลกระทบจากการที่นักท่องที่ยวจีนหายไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า มีความเป็นไปได้ที่แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2563 "จะเติบโตต่ำกว่า 2%" เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดยคุณดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บอกว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ว่าอาจลดลง 5 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของประเทศไทยหายไปประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ขณะเดียวกัน หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงกว่าที่คาดการณ์กัน ก็อาจกระทบ GDP ทั้งปี 2563 ให้ขยายตัวได้ไม่ถึง 2% หรืออาจขยายตัวเพียง 1.5% จากเดิมที่ ธปท.คาดการณ์ว่า GDP ปี 2563 จะขยายตัว 2.8% ส่วนช่วงไตรมาส 1/2563 อาจขยายตัวไม่ถึง 1%
"นอกจากปัจจัยลบอย่างไวรัสโควิด-19 ที่กระทบเศรษฐกิจไทยรุนแรงแล้ว ยังมีปัญหาภัยแล้ง และงบประมาณปี 63 ที่ยังล่าช้า ทำให้เศรษฐกิจในปีนี้ ค่อนข้างสาหัส ซึ่งต้องติดตามผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ว่า จะรุนแรงแค่ไหน อาจไม่รุนแรงเท่ากับตัวเลขของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แต่มีความเป็นไปได้ที่ GDP ปี 2563 จะต่ำกว่า 2%"
การก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้จำเป็นจะต้องอาศัยนโยบายหลายด้าน ทั้งนโยบายการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้กับผู้ประกอบการ มาตรการด้านการคลัง ทั้งการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เลื่อนการจ่ายภาษีและประกันสังคม รวมถึงกระตุ้นการออกเดินทางสัมมนาของภาครัฐ ตลอดจนมาตรการสถาบันการเงินให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยพักชำระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนั้นยังจำเป็นที่จะต้องอาศัยมาตรการด้านสาธารณสุข สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ
ด้านอาจารย์สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ มองว่า ผลกระทบของไวรัสโควิด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าในปีที่มีการแพร่ระบาดของซาร์ส เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจจีนมีสัดส่วนใน GDP โลก เพิ่มจาก 4.2% มาเป็น 14.3% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลจีนจะพยุง GDP ในปีนี้ให้ขยายตัวได้กว่า 5% แต่ก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกต่อไปจะเป็นอย่างไร แม้ว่าหลายฝ่ายจะคาดว่า น่าจะยุติไวรัสได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และกลับเข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด
ในส่วนภาคการท่องเที่ยว อาจารย์ประเมินว่า เหตุการณ์น่าจะคลี่คลายภายในเดือนมิถุนายนนี้ สิ่งสำคัญคือต้องปรับมุมมองของนักท่องเที่ยวให้เห็นว่าสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ และคาดว่านักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เช่น อินเดีย รัสเซีย และกลุ่มประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัส อย่างตะวันออกกลาง อเมริกา และยุโรป จะเป็นตลาดศักยภาพที่ช่วยหนุนภาคท่องเที่ยวของไทยได้
ที่สำคัญ "พระเอก"ในเวลานี้ คือ "การพึ่งพางบประมาณภาครัฐ" ที่เตรียมจะปล่อยออกมา กว่า 3.2 ล้านล้านบาท แม้จะยังล่าช้าอยู่ เพราะทั้งภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกพึ่งพาจีนเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดว่าภาคการส่งออกของไทยน่าจะติดลบ 2-4% และภาคการท่องเที่ยวของไทยก็อาจจะติดลบราว 9% ทำให้คาดว่าปีนี้ "เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวราว 2-2.2%"
ขณะที่ คุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในช่วงระยะสั้น ที่ถือว่าเป็นช่วงทำใจ รอว่าเมื่อไรนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา เทียบกับสถานการณ์โรคชาร์ส จะกระทบ 3- 5 เดือน และน่าจะติดลบมากสุดในเดือนเมษายน หลังจากนั้น จะเริ่มลบน้อยลงในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน และคาดว่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในเดือนกรกฏาคม
ส่วนมาตรการที่จะนำเสนอต่อรองนายกสมคิดได้แก่ 1.มาตรการฝ่าวิกฤติ โคโรนา ที่ต้องมีการเยียวยาผู้ประกอบการ การหาแหล่งเงินทุน การเข้าถึงแหล่งทุน 2.มาตรการความเชื่อมั่นที่ต้องกระตุ้นตลดในประเทศ ให้ฟื้นก่อนจากนั้นถึงจะกระตุ้นตลาดต่างประเทศ 3.ซ่อมสร้างอุปทาน ยกระดับการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน ในช่วงที่ไม่มีคนเข้ามาก็กลับไปปรับปรุง และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ต่าง ๆ ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ อย่างนี้ เป็นต้น
"เพื่อนแท้หรือไม่แท้จะรู้ได้ก็ตอนลำบาก" เป็นคำกล่าวที่ใช้ได้มาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น การที่รัฐบาลตัดสินใจไม่ปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีน ก็เพราะมองว่า การปิดประตูไม่รับเพื่อนหรือพี่น้องเข้าบ้านก็ดูจะใจร้ายจนเกินไป เพราะในอนาคตทั้งไทยและจีนยังคงต้องพึ่งพากันต่อไป วิกฤติครั้งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นวิกฤตทั้งสองประเทศที่ต้องสู้ไปด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-Exclusive Content :คืนชีพย่านเจริญกรุง ด้วยแฟชั่นและอาหาร
-Exclusive Content : ไวรัสโคโรนา-ฝุ่นPM2.5-ราคาหน้ากากอนามัยN95พุ่ง
-Exclusive Content : "ไวรัสโคโรนา"พ่นพิษ ส่อท่องเที่ยวไทยวูบ 3 เดือน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand