โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Efficient IP มอง DDI ไทยโอกาสโตสูง ตั้งทีมเสริมพันธมิตรสู่แชมป์โลกใน 3 ปี

Manager Online

อัพเดต 20 ก.พ. 2562 เวลา 14.41 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. 2562 เวลา 14.41 น. • MGR Online

เอฟฟิเชียนต์ไอพี (Efficient IP) บริษัทพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย DDI สัญชาติฝรั่งเศส ประกาศพร้อมบุกตลาดไทยเต็มที่หลังจากเริ่มชิมลางตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว ระบุปีนี้เตรียมลงทุนสูงเพราะเห็นการตื่นตัวขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าเติบโต 30% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของภาพรวมอุตสาหกรรม สานฝันขึ้นเบอร์ 1 บนเวทีโลกให้ได้ในปี 2022 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า

นิค อิททา รองประธานฝ่ายขาย ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Efficient IP ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินธุรกิจโซลูชัน DDI (DNS-DHCP-IPAM) ว่าปัจจุบันตลาด DDI ของไทยมีการตื่นตัวสูง เนื่องจากการมีอุปกรณ์บนเครือข่ายมากขึ้น ทำให้มีจุดอ่อนในการโจมตีมากตามไปด้วย จุดนี้องค์กรส่วนใหญ่เริ่มตระหนักแล้วว่าหากไม่มีการป้องกัน ก็อาจจะเป็นเหตุสู่ปัญหาข้อมูลลูกค้ารั่วไหล มีโอกาสเสียหายบานปลายเป็นปัญหาใหญ่โต

“DDI ถือเป็นรากฐานของทุกบริการออนไลน์ ถ้าฐานไม่แน่นก็สร้างบ้านไม่ได้ โดยเฉพาะบริการอย่างอินเทอร์เน็ตแบงก์กิง การลงทุนในระบบ DDI หรือโซลูชัน DNS ไม่มีสัดส่วนแน่นอนเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่นด้านซีเคียวริตี้ แต่เราเชื่อว่ามีสัดส่วนมหาศาล เพราะเป็นสิ่งที่องค์กรต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายตามมาหากเกิดการโจมตีดิจิทัล”

DDI นั้นเป็นระบบการจัดการการเชื่อมต่อบริการออนไลน์ซึ่งมีฐานหลักที่การจัดการระบบโดเมนเนม (DNS) และการจัดการหมายเลขไอพีแอดเดรส หากองค์กรใดไม่ได้ลงทุนซื้อโซลูชัน DDI ก็อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาเว็บไซต์ล่ม ระบบอีเมลใช้การไม่ได้ รวมถึงระบบพอร์ทัลขององค์กรที่อาจไม่ลื่นไหลเมื่อมีปริมาณทราฟฟิกจำนวนมากเข้ามาใช้งานพร้อมกัน

ผู้บริหาร Efficient IP ย้ำว่าแม้องค์กรจะลงทุนตามรายได้ของตัวเอง แต่วันนี้หลายองค์กรมีความตื่นตัวและลงทุนโซลูชัน DDI ไม่ต่ำกว่า 10% ของงบประมาณซีเคียวริตี้ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนนี้ถือว่ายังน้อยและควรจะต้องมากกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์กรเสียหายมากหากเกิดภัยโจมตีไซเบอร์

การสำรวจล่าสุดของ Efficient IP พบว่าในช่วงปีที่ผ่านมา กว่า 77% ของบริษัททั่วโลกถูกโจมตีผ่านระบบ DNS แถมค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อการโจมตี DNS ยังเพิ่มสูงขึ้นกว่า 57% ค่าเสียหายเฉลี่ยมากกว่า 715,000 เหรียญสหรัฐ

สำหรับตลาดไทย ผู้บริหาร Efficient IP วางกลยุทธ์จะขยายธุรกิจทั้ง 2 ด้าน คือทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ซึ่งมีแนวโน้มลงทุนระบบในวงกว้างไม่เฉพาะตลาดไทย แต่เป็นเทรนด์ครอบคลุมทั่วอาเซียน เบื้องต้นมั่นใจว่าพิษเศรษฐกิจจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ Efficient IP เพราะบริการของ Efficient IP สามารถตอบโจทย์ธุรกิจแม้ในตลาดอาเซียนที่เน้นพิจารณาราคาเป็นหลัก

“สิ่งที่เราทำคือ เมื่อลูกค้าลงทุนแล้ว ก็จะให้เห็นทันทีไม่ต้องรอ 3-5 ปีถึงเห็นผล ลูกค้าจะเห็นว่าโซลูชันนี้แก้ปัญหาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นโซลูชันที่มีประโยชน์”

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ Efficient IP หวังว่าจะเติบโต 30% (รวมตลาดไทย) เกินกว่าภาพรวมตลาดที่เติบโตเฉลี่ย 25% บริษัทมีแผนขยายจากที่มีทีมงานในสิงคโปร์ มาเป็นเริ่มต้นว่าจ้างทีมงานไทยทั้งกลุ่มฝ่ายขายและเทคนิกในปีนี้ ทั้งหมดจะสังกัดสำนักงานใหญ่ภูมิภาคที่สิงคโปร์ โดยจะบุกตลาดผ่าน 4 โลคอลพาร์ทเนอร์ไทยซึ่งเป็นบริษัทที่มีรายได้ราว 10-20 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

แผนการลงทุนจริงจังทำให้ Efficient IP บุกตลาดภาครัฐ และการศึกษาได้ดีขึ้น โดยทั้ง 3 ตลาดเป็นส่วนหลักที่ Efficient IP ให้ความสำคัญในทุกพื้นที่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีบริษัทค้าปลีก บริษัทยา และทุกองค์กรที่สามารถใช้ประโยชน์จากระบบจัดการ DNS ได้

ลูกค้าหลักของ Efficient IP คือกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคม ไม่เพียงทีโอที หรือเอไอเอสของไทย ลาวเทเลคอม สิงเทล รวมถึงบริษัทเทลโครายใหญ่ทั่วโลกล้วนเป็นลูกค้าของ Efficient IP จุดนี้บริษัทเชื่อว่าสัดส่วนรายได้ 60-65% ที่มาจากลูกค้ากลุ่มเทลโค จะยังมีสัดส่วนใหญ่เช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลงในปีนี้ เนื่องจากบริษัทเทลโคในอาเซียนมีจำนวนมาก

“ไทยมีลักษณะเหมือนอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เพราะมีบริษัทเทลโคหลายราย ขณะเดียวกันก็มีบริการไอพีทีวี อย่างไรก็ตาม ปีนี้ Efficient IP เชื่อว่ากลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินจะเป็นลูกค้ารายใหญ่มาแรงที่ลงทุนระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้สูงเป็นพิเศษ”

รายได้ 35% ของ Efficient IP เป็นกลุ่มภาคการศึกษา ธนาคาร และภาครัฐ จุดนี้ผู้บริหารเชื่อว่าธุรกิจโซลูชัน DNS จะเติบโตบนปัจจัยเสริมเช่นเรื่องกฏหมาย ที่ส่งเสริมให้บริษัทลงทุนเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลผู้บริโภค จนเป็นแนวโน้มเห็นชัดในยุโรป และที่เอเชียด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน Efficient IP ระบุว่าตัวเองมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ในกลุ่มลูกค้ารายใหม่ แต่เป็นอันดับ 3-4 ในตลาดลูกค้ารายเก่า จุดนี้บริษัทระบุว่าตั้งเป้าขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ให้ได้ในปี 2022 โดยจะเน้นจุดแข็งเรื่องเทคโนโลยีของ Efficient IP ที่ต่างจากสินค้าของคู่แข่ง 2 ประเด็น

“1 คือเรามีเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร เรามีเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถรองรับทราฟฟิก 17 ล้านคิวรี่ต่อวินาที ใครที่ถูกโจมตี DNS ก็จะช่วยได้ ซึ่งแบรนด์อื่นทำได้ 3 ล้านคิวรี่เท่านั้น ทำให้เสี่ยงระบบล่มจนแฮกเกอร์เข้ามาขโมยข้อมูลได้สำเร็จ จุดที่ 2 คือเรามีเทคโนโลยีตรวจสอบต้นทางทราฟฟิกว่ามาจากไหน ทำให้รู้ได้เบื้องต้นว่าเป็นทราฟฟิกจากลูกค้าจริงหรือหลอก ทำให้ต่างจากรายอื่น”

Efficient IP ยังเป็นพันมิตรกับยักษ์ใหญ่อย่างซิสโก้ (Cisco) ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งทั้งคู่จะร่วมกันบุกตลาดไทยและภูมิภาคอื่นผ่านโลคอลพาร์ทเนอร์ ซึ่งทำให้ Efficient IP มองว่าตลาดไทยและโลกในปี 2019 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับบริษัททุกแง่มุม.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0