โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“บลจ.วรรณ” อัพเกรดโมเดลใหม่...ส่ง “บล.ไพน์” ลุยธุรกิจ ‘Wealth Management’ แบบครบวงจร !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 06.29 น. • เผยแพร่ 12 พ.ย. 2564 เวลา 15.58 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

ปัจจุบันได้มีบริษัทมากมายปรับเปลี่ยนธุรกิจหรือต่อยอดธุรกิจ เข้าเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทในอนาคตให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ไม่เว้นแม้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ที่บางแห่งได้มุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยการปรับโมเดลในการทำธุรกิจใหม่ ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ธุรกิจบริหารจัดการงินลงทุนเท่านั้น
ล่าสุด “บลจ.วรรณ” ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้อุตสหกรรมกองทุน หลังเปิดตัว “บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น” เป็นบริษัทลูกให้ลุยธุรกิจ Wealth Management แบบครบวงจร
ตั้งเป้ารับรู้รายได้จากบริษัทใหม่นี้ในช่วง 3ปี ข้างหน้า ประมาณ 350ล้านบาท !!!
ซึ่งในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จะขอโอกาสในการนำข้อมูลของ “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด” ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นมาแชร์ให้แก่ผู้อ่านกันในครั้งนี้

“บลจ.วรรณ” ลุยโมเดลธุรกิจใหม่…เปิดตัว “บล.ไพน์” ธุรกิจ Wealth Management แบบครบวงจร

โดย “พจน์ หะริณสุต”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัดบอกว่า ปัจจุบันนี้บริษัทพร้อมเปิดดำเนินการบริษัทในเครือ “บริษัทหลักทรัพย์ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด” โดย “บลจ.วรรณ” ถือหุ้น 99%เพื่อดำเนินธุรกิจ Wealth Management แบบครบวงจร
ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าบุคคลเป็นหลัก เพื่อให้ตอบโจทย์การให้คำแนะนำลูกค้าแบบรายบุคคลได้มากขึ้น แต่ก็สามารถให้บริการลูกค้านิติบุคคลได้ด้วย โดยการจัดตั้งบริษัทในเครือดังกล่าว นับเป็นหนึ่งก้าวสำคัญก้าวแรกของบลจ.วรรณ เพื่อเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเป็นไปตามแผนธุรกิจ 3ปี ที่วางเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้

(พจน์ หะริณสุต)

“บลจ.วรรณ เรามีการพัฒนาตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์สิ่งรอบข้างอยู่เสมอเพื่อต่อยอดธุรกิจของเรา ซึ่ง ‘บล.ไพน์’เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบลจ.วรรณ ที่ต้องการขยายธุรกิจและปรับรูปโฉมให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนมากขึ้น พร้อมทั้งได้ตั้งเป้ารับรู้รายได้จาก ‘บล.ไพน์’ ในช่วง 3ปี ข้างหน้า ประมาณ 350ล้านบาท และจะเป็นส่วนเสริมให้บลจ.วรรณได้เป็นอย่างดีในฐานะช่องทางการลงทุน (Distribution Channel)”

“บลจ.วรรณ” วางตัวเป็น ‘ผู้นำนวัตกรรมการลงทุน’…พร้อมโยกฐานลูกค้าบุคคลไปให้ “บล.ไพน์” เพื่อประโยชน์ของลูกค้า

สำหรับการดำเนินธุรกิจของ “บลจ.วรรณ” ถัดจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นผู้นำเรื่องนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ ของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น กองทุนทางเลือก (Alternative Investment Funds) และการลงทุน Foreign Investment Funds รวมถึงกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ผ่านมาบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการจัดการการลงทุนต่างประเทศทั้งในเรื่องการเฟ้นหาพันธมิตรการลงทุนทั้งในและต่างประเทศรวมถึงการบริหารสัดส่วนการลงทุนและดูแลค่าเงินให้กับนักลงทุน
อีกทั้งยังเพิ่งเสนอขายกองทุน REIT Buy Back กองแรกของประเทศไปเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา และบริษัทยังมีรายได้จากการเป็น “นายทะเบียน” และ“ทรัสตี” มาเสริมอีกด้วย อย่างไรก็ดีบริษัทก็ยังจะหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อเสริมตวามแข็งแกร่งและเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับฐานลูกค้าของ ‘วรรณ’ และ ‘ไพน์’ จะไม่ทับซ้อนกัน บล.ไพน์จะเน้นเรื่องการเข้าถึงความต้องการลูกค้ารายบุคคล โดยฐานลูกค้าส่วนบุคคลของบลจ.วรรณจะถูกโอนย้ายไปยังบล.ไพน์ โดยจะย้ายตามความประสงค์ลูกค้าซึ่งการโอนย้ายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับลูกค้ามากกว่าเพราะลูกค้าจะมีโอกาสการลงทุนที่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายนอกเหนือจากของ บลจ.วรรณเอง”
อีกทั้ง “บล.ไพน์” ไม่เหมือนบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ที่เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลักแต่จะเน้นการลงทุนในเชิง Wealth Management มากกว่าโดยมีผลิตภัณฑ์ทั้ง ตราสารหนี้ กองทุนรวม และหุ้นกู้อนุพันธ์ รวมถึงสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆ ในอนาคต ที่จะผ่านการคัดกรองจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และจัดเป็นพอร์ตการลงทุนให้ลูกค้าตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ดี “บลจ.วรรณ” เราจะยังคงรุกการเติบโตในส่วนกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลูกค้านิติบุคคลและสถาบันองค์กรขนาดใหญ่รวมถึงตัวแทนขาย (Selling Agents) โดยในแผนพัฒนาองค์กร 3ปีหน้านี้ บริษัทมีแผนในการขยายธุรกิจในระดับระดับภูมิภาค (Regional) เพิ่มเติม นอกจากนี้บริษัทยังได้เริ่มเตรียมตัวสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทสินทรัพย์ดิจิตัล (Digital Assets) ซึ่งอาจต้องมีการขยายธุรกิจเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตด้วย

“บล.ไพน์” วางเป้าหมายเป็น ‘ONE-Stop Financial Service’…ตั้งเป้า 3 ปี ปั้น AUA แตะ 3 หมื่นล้านบาท

ด้าน “สุรศักดิ์ ธรรมโม”กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด บอกถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทว่า “บล.ไพน์” วางเป้าหมายเป็น ‘ONE-Stop Financial Service’ ให้กับนักลงทุน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่การตลาดของ บล.ไพน์ ช่วยแนะนำการลงทุนให้เหมาะกับนักลงทุนตามสถานการณ์เศรษฐกิจและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่กว้างขึ้นมาก
“เราวางเป้าหมายเริ่มต้นด้วย AUA (Asset Under Advisory) เดิมประมาณ 1.5หมื่นล้านบาทและวางเป้าหมายการเติบโตไปเป็น 3หมื่นล้านบาทภายใน 3ปีนี้โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เราแนะนำให้ลูกค้าและนักลงทุนจะไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่การลงทุนในกองทุนรวมในไทยเท่านั้น แต่รวมถึงสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และการลงทุนตรงในกองทุนรวมต่างประเทศด้วย ซึ่งตลาดการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีความหลากหลายมากและยังมีสินทรัพย์ในการลงทุนให้ค้นหา เพื่อเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อีกมาก”

(สุรศักดิ์ ธรรมโม)

สำหรับแผนธุรกิจช่วงแรกจะเริ่มต้นนำร่องด้วยผลิตภัณฑ์กองทุนรวมในประเทศที่เป็นที่คุ้นเคยผ่านระบบ ‘Fund Connext’ และ ‘Streaming Fund+’ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวางแผนจะเริ่มเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั่วโลกในรูปแบบลงทุนตรงต่างประเทศในช่วงต้น-กลางปีหน้านี้
รวมถึงผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้โดยเฉพาะในตลาดแรกหรือ IPO ประกอบการให้คำแนะนำแบบ “Asset Allocation” บน ‘Open Architecture’ ทั้งการลงทุนระยะสั้นถึงกลาง ยาว และการลงทุนแบบจับจังหวะตลาดให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของลูกค้า โดยบล.ไพน์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการแนะนำการลงทุนได้เพราะมีผลิตภัณฑ์จากทั้งบลจ.ชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ ตราสารหนี้ในตลาดแรก หุ้นกู้อนุพันธ์ ซึ่งอาจรวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสินทรัพย์ดิจิตัลในอนาคต
“จุดเด่นของบล.ไพน์ที่แตกต่างคือการนำทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในวิเคราะห์การลงทุนได้อย่างยอดเยี่ยม มารวมเข้ากับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายและครอบคลุมทั่วโลกแล้วเสริมด้วยนวัตกรรมและแพลตฟอร์มการลงทุน ให้เข้ากับตัวลูกค้าและนักลงทุน ผ่านขั้นตอนรายงานการลงทุนที่เข้าใจง่ายและครบถ้วน”
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของ “บลจ.วรรณ” ครั้งสำคัญอีกหนึ่งครั้งที่ได้ขยับตัวมายังภาคการบริการรูปแบบใหม่ โดยผ่าน “บริษัทหลักทรัพย์” หรือ “บล.” ซึ่งสำหรับเรานักลงทุนทั่วไปก็ถือเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น ด้วยบริการที่ครบวงจรจึงทำให้การลงทุนมีความสะดวกสบายมากขึ้น และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คงเป็นที่จับตามองของบลจ.ร่วมอุตสาหกรรมด้วยเช่นกันในการเดินธุรกิจโมเดลใหม่ในครั้งนี้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0