การนำเสนอ“นโยบาย”คือเงื่อนไขและโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะดำ รงสถานะรุกในทางการเมือง
ยืนยันความเหนือกว่าเมื่อเทียบกับฝ่ายค้าน
เห็นได้จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาศัยความเป็นนายกรัฐมนตรีในการเปิดเวที ได้รับโอกาสในการแถลงยาวเหยียด แทบไม่กำหนดเวลา
ขณะเดียวกัน หลังจากฝ่ายค้านอภิปรายเชิงวิพากษ์แสดงการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย กฎกติกาก็ยังเปิดโอกาสให้นายกรัฐ มนตรีและฝ่ายรัฐบาลชี้แจงทำความเข้าใจ
รัฐบาลอยู่ในจุดอันเป็น”พระเอก”มีความสำคัญในเวทีทางการเมืองอย่างเด่นชัด
แล้วโอกาสของฝ่ายค้านจะอยู่ตรงไหน
โอกาสของฝ่ายค้านมิได้อยู่บนฐานแห่งโวหารหรือความสามารถในการอภิปรายอย่างด้านเดียว ตรงกันข้าม ขึ้นอยู่กับข้อมูล การเรียบเรียงข้อมูลและนำเสนอ
หากมีแต่โวหารด้านเดียวก็เข้าทำนอง น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง
กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย รำคาญ
ขณะเดียวกัน หากมีแต่ข้อมูล ตัวเลขมากมายโดยมิได้มีการสังเคราะห์ แปรนามธรรมให้เป็นรูปธรรม ก็จะกลายเป็นยาขม ชวนให้หลับมากกว่าจะตาสว่าง
การจัดเอกภาพระหว่างข้อมูลกับกระบวนการนำเสนอข้อมูล จึงมีความสำคัญ
แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวด คือ การนำเสนอ”ความจริง”
ความจริงในที่นี้เป็นทั้งความจริงในทางเนื้อหา และความจริงที่เป็นความจริงแท้ เจาะกระเทาะประเด็นอย่างทะลุปรุโปร่ง แจกแจงออกมาได้อย่างเป็นระบบ
สร้างภาพลักษณ์การเมืองใหม่ นักการเมืองสร้างสรรค์
ภายในสมรภูมิแห่งการสู้รบ ไม่ว่าในทางการเมือง ไม่ว่าในทางการทหาร ไม่มีใครดำรงสถานะแห่งการรุกได้อย่างด้านเดียว ไม่มีใครดำรงสถานะแห่งการรับได้อย่างด้านเดียว
รุกและรับคือสภาพแปรเปลี่ยนพลิกผันในสนามรบ
ในเวทีแห่งการแถลงนโยบายก็เช่นเดียวกัน รัฐบาลอาจเป็นฝ่ายรุก แต่ก็อาจเพลี้ยงพล้ำตกเป็นฝ่ายรับได้
หากฝ่ายค้านมีความแข็งแกร่ง พลิกจากรับมาเป็นรุก
