ไม่ว่าจะมองจากมุมด้านวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะมองจากมุมใน ด้านปรัชญา
การดำรงอยู่ของ”ร่างพรบ.งบประมาณ”มีลักษณะ 2 ด้าน
ด้านหนึ่ง ย่อมสะท้อนให้เห็นตัวตนความเป็นรัฐบาลออกมาอย่าง เด่นชัด
ก่อรูปขึ้นจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
สัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับโครงสร้างใหญ่ โครงสร้างหลักของสังคมไทยที่ครอบงำมาอย่างยาวนาน ผ่านกระบวนการรัฐประหารไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2490 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2549
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ย่อมสะท้อนการเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของพรรคฝ่ายค้านผ่านกระบวนการสังเคราะห์”งบประมาณ”
ตัวตนของ”ฝ่ายค้าน”ผงาดเด่น ณ เบื้องหน้าสังคม
ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พรรคเสรีรวมไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชาติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อ ชาติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังปวงชนไทย
พลันที่จัดส่ง”ตัวแทน”ขึ้นสู่เวทีของการถกแถลงอภิปรายก็จะฉาย ชัดให้เห็น
1 ตัวตนของคนๆนั้นอันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งแฝงมากับตัวตนของคนๆนั้นอย่างมิอาจปัดปฏิเสธได้ คือศักยภาพและพลานุภาพแห่ง”พรรคภาพ”ของแต่ละพรรค การเมือง
เป็นพรรคอันมีพื้นฐานในทางวิชาการ เป็นพรรคอันมีพื้นฐานจาก ความจัดเจนทางการเมือง แต่ละคำพูด แต่ละกระบวนท่าย่อมซึมซ่านผ่านเนื้อหาการนำเสนอ
รูปแบบย่อมสะท้อนเนื้อหาอันเป็นเอกลักษณ์อันเป็นอัตลักษณ์
มีความแตกต่างอย่างแน่นอนระหว่างการนำเสนอของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แห่งพรรคเพื่อไทย กับการนำเสนอของ น.ส.ศิริกัญญา ตัน สกุล แห่งพรรคอนาคตใหม่
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องกล่าวถึง พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส
เพราะแต่ละปรากฏการณ์อันสะท้อนออกมาย่อมสามารถสาวลึกไปยังธาตุแท้และความเป็นจริง
ความเป็นจริงของแต่ละพรรค ความเป็นจริงของแต่ละคน
ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงที่สรรพสิ่งดำเนินไปในลักษณะมีพลวัต ไม่หยุดนิ่ง ไม่แน่นอน ไม่ตายตัว