บทเรียนสำคัญที่สุดของพรรคอนาคตใหม่จากการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ เขต 5 นครปฐม
1 การเมืองพลิกได้ การเลือกตั้งพลิกได้
เมื่อเดือนมีนาคมชัยชนะอาจเป็นของพรรคอนาคตใหม่ แต่มาถึง เดือนตุลาคมความพ่ายแพ้ก็เป็นของพรรคอนาคตใหม่
นี่คืออนิจจังของการเมือง นี่คืออนิจจังของการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกัน 1 ความสำเร็จในทางการเมืองมากด้วยความสลับซับซ้อน
ยืดเยื้อ เรื้อรัง
บางอย่างอาจได้มาในชั่วข้ามคืน แต่ก็เป็นส่วนน้อย ด้านหลักและส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสะสมในเชิงปริมาณ
ความสันทัดในการสรุปและยกระดับเป็นบทเรียนจึงสำคัญ
ต้องยอมรับว่าอิทธิพลทางการเมืองที่ดำรงอยู่ในนครปฐมเป็นอิทธิพล ของ “บ้านใหญ่” จากตระกูล”สะสมทรัพย์”
เป็นไปไม่ได้ที่จะพังครืนลงด้วยเวลาอันสั้น
ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การเติบใหญ่ของตระกูล”สะสมทรัพย์” มิได้เป็นการเติบใหญ่ด้วยโชคช่วย หากแต่เป็นฝีมือและความสามารถ
แม้ว่าพรรคอนาคตใหม่จะสามารถเบียดแทรกเข้าไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าอำนาจและบารมีของ”สะสมทรัพย์”ยังมีอยู่
และมีอยู่อย่างมิใช่ในสภาพ”ตะวันตกดิน”อีกด้วย
ความสามารถอย่างยิ่งก็คือ ความสามารถในการประสานกับฝ่ายกุมอำนาจ ไม่ว่าในยุคไทยรักไทย ไม่ว่าในยุคหลังรัฐประหารเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2557
นี่คือสภาพความเป็นจริงที่เห็นกันอย่างเด่นชัด
ความพ่ายแพ้ของพรรคอนาคตใหม่จึงมิได้เป็นเรื่องเลวร้ายหากแต่น่าจะเป็นบทเรียนอันทรงความหมาย
ทำให้ตระหนักในสภาพความเป็นจริงทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นการเมืองอันมีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองในระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่นที่คนในตระกูลใหญ่เป็นตัวแทน
การทำความเข้าใจต่อสภาพความเป็นจริงมิได้มีเป้าหมายเพื่อขู่ขวัญตนเอง ตรงกันข้าม ต้องทำความเข้าใจจาก”หน้างาน”
มีแต่เข้าใจจาก”หน้างาน”จึงจะแก้ปัญหาและเอาชนะได้