ปรากฏการณ์จากกรณีที่ 18 กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เป็นปรากฏการณ์อันนำไปสู่การคาดทำนายล่วงหน้าทางการเมืองอย่างคึกคัก
มองเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค คือ ระฆังบ่งบอกการปรับครม.ในระยะเวลาอันใกล้
ประเมินว่าการต่อสู้ระหว่าง”กลุ่ม 4 กุมาร”ที่ไม่ต้องการให้มี การเปลี่ยนแปลง กับหลายกลุ่มทางการเมืองที่ต้องการการเปลี่ยน แปลงลงเอยอย่างเด่นชัด
เป็นความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของ”กลุ่ม 4 กุมาร”เพราะต้องกลายเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงเสียเอง
สายตาที่มองไปยัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จึงมีแววแปลกๆ
เนื่องจากเห็นเงาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทาบทับอยู่เบื้องหลังอย่างเด่นชัด
หากจับเพียงปรากฏการณ์ของการเคลื่อนไหวแห่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานกับการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุ วรรณ ก็คล้ายกับ 2 คนนี้ขัดแย้งกัน
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งให้คำมั่นกับ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรรัตน์ ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน
แต่แล้วกลับปรากฏการขับเคลื่อนจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ด้วยการยื่นใบลาออกจากกรรมการบริหารพรรค
ดูเผินๆเหมือนกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังหัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งๆที่ 2 คนนี้เขี่ยขากันด้วยสันถวมิตร อันสนิทสนมโดยตลอด
คนที่ถูกหลอกมิใช่สังคมที่บริโภคข่าวสารจากรัฐบาลและจากพรรคพลังประชารัฐ หากแต่เป็น นายอุตตม สาวนายน หากแต่เป็น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มากกว่า
ที่เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากเกินไป
ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ไม่ว่า นายอุตตม สาวนา ยน ไม่ว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ล้วนได้รับความเชือ่ถือจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เพราะหากไม่เชื่อถือคงไม่มอบตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิ การพรรคให้
แต่แล้วตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็หลุด แต่แล้วตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็หลุด
ทุกอย่างล้วนดำเนินไปในแบบ”การศึกมิหน่ายเล่ห์”ทั้งสิ้น
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่
