โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Dufry ดิวตี้ฟรีใหญ่สุดในโลก กำลังโคม่า

ลงทุนแมน

อัพเดต 03 เม.ย. 2563 เวลา 17.56 น. • เผยแพร่ 07 เม.ย. 2563 เวลา 02.40 น. • ลงทุนแมน

Dufry ดิวตี้ฟรีใหญ่สุดในโลก กำลังโคม่า /โดย ลงทุนแมนสนามบินร้าง สายการบินระงับเที่ยวบิน โรงแรมไร้ผู้พักอาศัย
และอีกหลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ความกังวลเรื่องโรคระบาด ทำให้ผู้คนไม่ออกเดินทาง ไม่ออกไปจับจ่ายใช้สอย
รัฐออกมาตรการปิดเมือง ปิดประเทศ รวมถึง Social Distancingซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เกือบทุกธุรกิจติดโรค COVID-19 และกำลังป่วย
โดยแต่ละบริษัทจะแสดงอาการป่วยมาก ป่วยน้อย ก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกัน หรือความแข็งแกร่งของแต่ธุรกิจสำหรับธุรกิจดิวตี้ฟรี เป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่มีอาการโคม่า..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ดิวตี้ฟรี หรือสินค้าปลอดภาษี แต่ก่อนใครๆ ก็มองว่า เป็นธุรกิจที่มีภูมิคุ้มกัน หรือป้อมปราการทางธุรกิจอันแข็งแกร่งเพราะได้สัมปทานจากรัฐ ธุรกิจจึงไร้ซึ่งคู่แข่งโดยความเสี่ยงเดียวของธุรกิจก็คือ การที่สัมปทานหมดอายุลงอย่างไรก็ตาม โลกความเป็นจริง อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น..Dufry ดิวตี้ฟรีสัญชาติสวิส
เป็นดิวตี้ฟรีที่ใหญ่สุดในโลก
ดำเนินธุรกิจใน 65 ประเทศทั่วโลก มีหน้าร้านกว่า 2,400 ร้าน ใน 420 แห่งตอนต้นปี บริษัทมีมูลค่า 166,400 ล้านบาท
แต่ตอนนี้บริษัทเหลือมูลค่าเพียง 46,400 ล้านบาท
หรือคิดเป็นมูลค่าที่หายไปกว่า -72%เพียงแค่ดูอาการเบื้องต้น ก็บอกได้คำเดียว
อาการหนัก..ลองมาเจาะผลประกอบการย้อนหลังของ Dufry
ปี 2018 มีรายได้ 286,289 ล้านบาท กำไร 4,584 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 291,503 ล้านบาท กำไร 1,019 ล้านบาทปีล่าสุดที่กำไรลดลง เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เช่น ค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ยจ่ายสามารถแบ่งรายได้ตามช่องทางจำหน่ายได้ดังนี้
สนามบิน 88%
สถานีรถไฟ 5%
เรือสําราญและท่าเรือ 4%
ร้านค้าชายแดนและในโรงแรม 3%สรุปได้ว่า แหล่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินโดยในสถานการณ์ปกติ โลกโลกาภิวัตน์ หรือไร้พรมแดน
จะมีผู้คนเดินทางไปมาระหว่างประเทศเป็นเรื่องปกติ
ทำให้ผู้คนต้องไปสนามบิน และมีโอกาสแวะผ่านพื้นที่ดิวตี้ฟรีแต่ใครจะไปคิดว่า โรคที่กำลังระบาดใหญ่ไปทั่วโลก
ได้เสกมนตร์ดำ ให้ผู้คนต้องหยุดโบยบินไปสู่โลกกว้างเมื่อผู้คนกลัวมนตร์ดำ ไม่กล้าออกเดินทาง ไม่ไปสนามบิน
ร้านดิวตี้ฟรี ก็เหมือนถูกต้องคำสาป ไม่ให้ผู้คนมาพบเจอ..ซึ่ง Dufry ก็คงไม่คาดคิดว่าจะต้องเจอฝันร้ายเช่นนี้เพราะขนาดตัวเราเอง ก็ยังไม่เคยเห็นภาพ สนามบินไร้ผู้คน ผู้คนทั่วโลกไม่ออกเดินทางไปไหน กักตัวอยู่แต่ในบ้านมาก่อนที่ผ่านมาเคยเห็นเฉพาะบางพื้นที่ หรือบางประเทศเท่านั้น ไม่ใช่ทั่วโลกและคำว่า “ทั่วโลก” นี้ เป็นดั่งคำที่ทิ่มแทงใจ Dufry
เพราะ Dufry ดำเนินธุรกิจในทั่วทุกมุมโลก และหมายมั่นปั้นมือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี..โดยธุรกิจของ Dufry จะแบ่งรายได้ตามทวีปดังนี้ยุโรป และแอฟริกา 44%
อเมริกาเหนือ 22%
อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ 18%
เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง 15%
อื่นๆ 1%
การกระจายธุรกิจไปในหลายทวีป หลายประเทศ
ก็เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากที่ใดที่หนึ่ง
รวมถึงการหมดอายุสัมปทาน
ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของ Dufryแต่ตอนนี้ จุดแข็งของ Dufry ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะโคโรนาไวรัสมันได้ระบาดไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว
และรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ ก็มาจากทวีปยุโรปและอเมริกา
ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคในตอนนี้นอกจากเรื่องรายได้ที่ Dufry กระทบไปเต็มๆ
อีกอย่างที่น่าเป็นห่วงคือ ปัญหา “สภาพคล่อง”Dufry มีเงินสดอยู่ที่ 18,700 ล้านบาทส่วนหนี้หลักๆ ที่ต้องจ่ายในปีนี้คือ
หนี้สินจากสัญญาเช่าภายใน 1 ปี อยู่ที่ 36,759 ล้านบาท
และเงินกู้ยืมระยะสั้น 1,801 ล้านบาทถ้าบริษัทไม่มีรายได้เข้ามา หรือรายได้ลดลง
ก็อาจทำให้ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
เพราะต้องจ่ายหนี้ จ่ายดอกเบี้ยและที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายคงที่ต่างๆ เช่น เงินเดือนพนักงานซึ่งตอนนี้ทาง Dufry ก็กำลังดำเนินการลดค่าใช้จ่ายลง เช่น ลดพนักงาน, ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
รวมถึงเจรจาสัญญาเรื่องค่าเช่าใหม่อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลงโดยเร็ว
และผู้คนต่างกลับมาท่องเที่ยวเหมือนเดิม
คงไม่เป็นปัญหาสำหรับธุรกิจเท่าไรแต่ความเป็นจริง มันอาจไม่ง่ายอย่างนั้น
เพราะถึงแม้โรคระบาดจะจบ แต่ความกังวลในใจของผู้คนยังคงอยู่ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเยียวยาพอสมควร และอาจลากยาวเกินกว่า 1 ปี
เพื่อให้ผู้คนกลับมามีความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวและนี่ก็เป็นความท้าทายอีกขั้นที่ Dufry ต้องเตรียมรับมือเนื่องจาก Dufry ยังมีหนี้สินมหาศาลให้รอสะสางอยู่
โดยมีเงินกู้ยืมระยะยาว 121,960 ล้านบาท
และหนี้สินจากสัญญาเช่าเกิน 1 ปีอยู่ 112,372 ล้านบาทถ้าธุรกิจไม่ได้ฟื้นกลับมาเป็นปกติ แม้โรคระบาดจะจบลง
มันอาจกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ระยะยาวของบริษัทได้ก็น่าคิดว่า ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีที่ใหญ่สุดในประเทศไทย “King Power”
ตอนนี้จะมีอาการป่วยเป็นอย่างไร..
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0