โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Docker แนะนำ 11 เทคนิคการเขียน Dockerfile

blognone

เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 13.28 น. • lew

Tibor Vass จาก Docker Inc ผู้พัฒนาโครงการ Docker เขียนบล็อคแนะนำถึง 10 เทคนิคในการเขียน Dockerfile ให้มีคุณภาพ

Dockerfile เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาแบบคอนเทนเนอร์ มันเป็นสคริปต์สำหรับการสร้างอิมเมจคอนเทนเนอร์ที่เหมือนกับการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงเซิร์ฟเวอร์ โดยการรันอิมเมจแต่ละครั้งจะคาดเดาได้ว่าสภาพแวดล้อมเป๋นอย่างไร

11 เทคนิคที่ Vass แนะนำมีดังนี้

เรียงลำดับสคริปต์โดยคิดถึงแคช คำสั่งในสคริปต์อาจจะสลับกันได้โดยเท่าเทียมกัน แต่การนำบรรทัดที่มีความเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ไปอยู่ต้นไฟล์ จะทำให้ไม่สามารถใช้แคชในขั้นต่อๆ ไปได้อีก ใช้คำสั่ง COPY อย่างเจาะจงไฟล์ คำสั่ง COPY ที่ใช้ส่งไฟล์จากเครื่องเข้าไปยังอิมเมจ หากมีการส่งไฟล์ที่ไม่จำเป็นเข้าไปในอิมเมจด้วย เมื่อไฟล์เหล่านั้นถูกแก้ไขก็จะไม่สามารถใช้ข้อมูลในแคชได้ ทำให้กระบวนการ build อิมเมจช้าลง ระวังแคช ให้รวมคำสั่งให้ต้องรันต่อเนื่องกันเข้าด้วยกัน เนื่องจากแต่ละคำสั่งจะมีแคชผลการรันอยู่ หากเราแยกคำสั่งที่ควรรันต่อเนื่องกัน เช่น apt get update ออกเป็นคนละคำสั่งกับ apt get install ก็อาจจะทำให้อิมเมจของเราได้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นเก่า ไม่ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็น เพื่อลดขนาดอิมเมจ ควรติดตั้งเฉพาะซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต่อการทำงาน เทคนิคพื้นฐานเช่น APT นั้นมีแฟลก --no-install-recommends อยู่ เพื่องดติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ "แนะนำ" แต่ไม่ได้จำเป็นได้ ลบแคชทิ้งก่อนนำอิมเมจไปใช้ การติดตั้งหรืออัพเดตซอฟต์แวร์ในคอนเทนเนอร์มักโหลดไฟล์ต่างๆ มาเก็บไว้ในแคช ทำให้อิมเมจใหญ่เกินความจำเป็น ทาง Docker แนะนำให้ลบไฟล์เหล่านี้ทิ้งไปก่อนนำอิมเมจไปใช้งาน ใช้อิมเมจทางการก่อนหากเป็นไปได้ โครงการจำนวนมากมีอิมเมจทางการมาให้แต่แรก แทนที่จะเขียน Dockerfile ใหม่เองแต่ต้น การใช้อิมเมจหลักมาปรับแต่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก เลือกแท็กให้เจาะจง อิมเมจมีระบบแท็กเพื่อให้เลือกเวอร์ชั่นของอิมเมจได้ แต่นักพัฒนามักเลือกแท็ก latest เป็นความเคยชินแต่พอใช้งานจริง ซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดอาจจะไม่สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นเดิม ควรเจาะจงเวอร์ชั่นให้มากขึ้น เลือกอิมเมจขนาดเล็ก อิมเมจมาตรฐานจากโครงการต่างๆ มักมีให้เลือกรุ่นอิมเมจขนาดเล็ก เช่น OpenJDK มีรุ่น slim ที่เป็น Debian ย่อส่วน ทำให้อิมเมจโดยรวมเล็กลงมาก อย่างไรก็ดี อิมเมจบางรุ่นที่เล็กมากๆ อาจจะใช้ลินุกซ์รุ่นเล็กอย่าง Alpine ที่ใช้ ไลบรารีเป็น musl แทน GNU ทำให้อาจจะมีปัญหาความเข้ากันได้บางกรณี ในกรณีของ OpenJDK มีรุ่น jre ที่มีแต่รันไทม์อย่างเดียวโดยไม่ต้องมี SDK ทำให้ขนาดเล็กลงไปอีก สร้างอิมเมจจากซอร์สโค้ด แทนที่จะสร้างอิมเมจจากไบนารีที่คอมไพล์มาก่อนแล้ว ซึ่งทำให้อิมเมจที่ได้คาดเดาผลไม่ได้ การดึงเอาไฟล์ที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในอิมเมจโดยตรง ทำให้เมื่อซฮร์สโค้ดเปลี่ยนแปลง กระบวนการสร้างอิมเมจก็จะรันครบถ้วน ดึงไฟล์ที่เกี่ยวข้องทีละลำดับ แยกลำดับการประมวลผลไฟล์ที่ต้องใช้งานในอิมเมจ (dependency) ออกมาทีละลำดับ และประมวลผลเท่าที่ทำได้ก่อน จะทำให้กระบวนการสร้างอิมเมจสามารถแคชขั้นตอนบางส่วนไว้ได้ เช่นการโหลด dependency ด้วย maven ก่อนจะสั่ง COPY ซอร์สโค้ดเข้ามา ใช้กระบวนการ build หลายขั้น การสร้างอิมเมจที่มีไฟล์ที่จำเป็นสำหรับการคอมไพล์โปรแกรมมักทำให้อิมเมจมีขนาดใหญ่ ทางเลือกคือการใช้เทคนิค multi-stage สร้างอิมเมจสำหรับคอมไพล์ซอฟต์แวร์ แยกออกมาจากอิมเมจสำหรับการรัน โดย Dockerfile สามารถดึงไฟล์จากอิมเมจที่ใช้คอมไพล์โปรแกรมได้อยู่แล้ว ด้วยอาร์กิวเมนต์ --from ในคำสั่ง COPY ผมเองหลังจากอ่านแล้วก็พบว่าไม่ได้สนใจแนวทางเหล่านี้ในบางครั้ง การคำนึงถึงประเด็นที่ทาง Docker ระบุมา น่าจะช่วยให้อิมเมจมีขนาดเล็ก โหลดได้รวดเร็ว และลดเวลา build โดยรวมในกรณีที่ไม่จำเป็นออกไปได้

ที่มา - Docker Blog

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0