โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Coca-Cola รุกธุรกิจ Rideshare Commerce เอาสินค้าวางขายใน Uber

Brand Inside

เผยแพร่ 23 เม.ย. 2561 เวลา 17.04 น. • Ratirita
coca-cola
ภาพจาก Pixabay

ก้าวอีกขั้นของ Coca-Cola ได้ทำการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจกลุ่ม Rideshare โดยมีการนำเอาสินค้าในเครือเข้าไปวางจำหน่าย หรือให้ทดลองดื่มใน Uber และ Lyft

ภาพจาก Pixabay
ภาพจาก Pixabay

ถือเป็นการขยายตลาดเพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้นสำหรับ Coca-Cola ที่เข้าเป็นพันธมิตรร่วมกับแบรนด์ Rideshare ซึ่งเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ได้เริ่มทดลองที่แบรนด์ Glaceau Smartwater แบรนด์น้ำแร่ในเครือ โดยที่มีวางเสิร์ฟแก่ผู้โดยสารใน Uber และLyft ให้บริการในตลาดที่ Atlanta ที่เป็นสำนักงานใหญ่ก่อน

Atlanta เป็นตลาดใหม่สำหรับกลุ่ม Cargo ได้เริ่มเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2017 และได้ให้บริการที่ New York, Chicago, Boston, Minneapolis, Washington D.C. และ Baltimore โดยที่มีแผนการลงทุนที่ 5.5 ล้านเหรียญ ในการขยายตลาดเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเข้าถึงผู้โดยสารได้ 25 ล้านคน จากจำนวน 20,000 คัน

ภาพจาก Pixabay
ภาพจาก Pixabay

ตลาด Rideshare Commerce เป็นที่น่าสนใจไม่น้อย มีหลายแบรนด์จ้องที่จะเข้าไปทำตลาดในการวางสินค้า หรือแจกสินค้าให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ ทดลองทาน เช่น Rideshare Commerce

RxBar เป็นโปรตีนบาร์ โดยกลุ่ม The Kellogg Company ได้เซ็นสัญญากับธุรกิจนี้เมื่อเดือนกันยายน 2017 ส่วนแบรนด์ขนมอื่นๆ ก็มีจำหน่ายในรถบางรุ่น เช่น ได้แก่ Sour Patch Kids, Extra, Altoids, BelVita, Clif Bars และ Goodness Know

และยังมีสินค้าสำหรับอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ยาแก้ปวดหัว ยาแก้แฮงค์ เป็นต้น

ซึ่งผู้ขับจะได้รับเงินเพิ่มเมื่อวางสินค้าที่คอนโซลกลางของรถ และจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 25% ในการขายแต่ละครั้ง บวกกับรายได้ 1 เหรียญที่เป็นฐานประจำ เมื่อผู้โดยสารซื้อสินค้าอะไรบางอย่าง

ภาพจาก Pixabay
ภาพจาก Pixabay

แน่นอนว่ายุคนี้มีการแข่งขันรอบด้าน ทำให้แบรนด์ต้องมีการกระตือรือร้นในการเพิ่มช่องทางการขาย จะพึ่งพาแค่ขายสินค้าตามห้างค้าปลีกอย่างเดียวไม่ได้ หลายแบรนด์เริ่มลงทุนหนักในการพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซ ช่องทางขายตรง และขยายช่องทางใหม่ๆ อย่าง Rideshare Commerce ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าจับตามอง

ซึ่งช่องทาง Rideshare Commerce เองก็มีโอกาส และช่องว่างมากมาย ผู้โดยสารที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen M และ Gen Z เป็นกลุ่มคนที่ชอบความสะดวกสบาย มีกำลังซื้อสูง การที่มีสินค้าตอบโจทย์ความต้องการของเขาก็ยิ่งดีไปกันใหญ่

Source

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0