ซีเอ็นเอ็น - นายราชัน มาห์บูบานี คิดว่าตนเองคงพบหนทางสำหรับได้รับสิทธิพิเศษตามสนามบินต่างๆ โดยเขาใช้อุบายแต่งกายในชุดเครื่องแบบนักบินสายการบินลุฟต์ฮันซาและใช้บัตรประจำตัวปลอมหลอกลวงพนักงานภาคพื้น แต่สุดท้ายก็ไม่รอดถูกจับกุมในที่สุด
ในคดีที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ในภาพยนตร์เรื่อง "Catch Me If You Can," ชายวัย 48 ปีรายนี้ถุกกล่าวหาสวมเครื่องแบบของนักบินสายการบินลุฟต์ฮันซาแห่งเยอรมนี หลอกพนักงานภาคพื้นของสนามบินต่างๆ อนุญาตให้เขาไม่ต้องผ่านมาตรการคัดกรองด้านความปลอดภัยและได้รับการอัพเกรดชั้นโดยสาร
ดูเหมือนว่ามันเคยได้ผลมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งเขาถูกจับได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธีในนิวเดลีเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร(19พ.ย.)
มาห์บูบานี แต่งกายในชุดนักบินขณะถูกจับกุมที่บริเวณประตูขาออก ตอนที่เขากำลังไปขึ้นเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวจากนิวเดลีสู่เมืองโกลกาตา
ซันเจย์ ภาเตีย รองผู้บังคับการตำรวจสนามบินให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า พนักงานคนหนึ่งของสายการบินลุฟต์ฮันซาแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินว่า "พบผู้โดยสารต้องสงสัยคนหนึ่งกำลังแอบอ้างเป็นกัปตันของสายการบินลุฟต์ฮันซา" หลังจากก่อนหน้านี้ทางแอร์เอเชียได้ติดต่อไปยังลุฟต์ฮันซาขอให้ตรวจสอบตัวตนของเขา เพื่อดูว่าเขาเป็นนักบินของสายการบินลุฟต์ฮันซาจริงหรือไม่
รายงานข่าวระบุว่า มาห์บูบานี ซึ่งมีพื้นเพจากนิวเดลี ถูกควบคุมตัวและส่งมอบต่อให้กับตำรวจนิวเดลี และจากการตรวจค้นในเวลาต่อมา พบว่าเขาพกบัตรประจำตัวปลอมนักบินของสายการบินลุฟต์ฮันซา และใช้มันรับสิทธิพิเศษต่างๆนานาที่สนามบินหลายแห่ง
"หลังจากถูกจับกุม มาห์บูบานี บอกกับเขาใช้วิดีโอในยูทูปและแอปฯวิดีโอ TikTok สร้างตัวตนในด้านการบิน และได้บัตรประจำตัวปลอมนักบินสายการบินลุฟต์ฮันซาในไทย" ภาเตียระบุ
ว่ากันว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินได้จับตาและเฝ้าระวังเขามานานแล้ว สืบเนื่องจากวิดีโอต่างๆที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขานั่นเอง
ตำรวจผยมาห์บูบานีให้การว่าเขาชื่นชอบแต่งกายในชุดเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่พบภาพถ่ายจำนวนหนึ่งที่เขาแต่งกายในเครื่องแบบทหารในโทรศัพท์มือถือของเขา
"มาห์บูบานีให้การว่าเขาเป็นคนต้องบินบ่อยๆและใช้วิธีการแต่งกายเป็นนักบินเพื่อผ่านมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างง่ายดาย และได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากหน่วยงานความมั่นคงและสายการบินต่างๆ เช่นเดียวกับอัพเกรดชั้นโดยสาร"
เวลานี้เขาอยู่ในห้องขังและมีสิทธิ์เจอข้อหาทั้งหลอกลวงและปลอมตัว ซึ่งหากถูกพบว่ามีความผิดจริง อาจติดคุก 1 ปี หรือปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ
การปลอมตัวของมาห์บูบานี ทำให้ย้อนนึกถึง แฟรงค์ อแบกเนล สุดยอดนักต้มตุ๋นระดับโลก ซึ่งปลอมตัวเป็นนักบินเพื่อเดินทางฟรี และต่อมาชีวประวัติของเขาได้กลายเป็นต้นแบบของภาพยนตร์อันโด่งดังของ สตีเวน สปีลเบิร์ก เรื่อง Catch me if you can ในปี 2002
