โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

โพยหุ้นเด่นเดือนก.ย. ให้เน้นหุ้นผลงานช่วงที่เหลือโต

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 10.55 น. • เผยแพร่ 06 ก.ย 2564 เวลา 08.52 น. • This’s Alano

เดือนก.ย.นี้ ถือเป็นเดือนสุดท้ายของช่วงไตรมาส 3/64 ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มสดใส ดังนั้นโพยหุ้นสัปดาห์นี้ Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาค้นหาหุ้นที่น่าลงทุนในเดือน ก.ย.นี้ท่ามกลางสัญญาณ Covid-19 ที่ดูดีขึ้นในหลายมิติ ภายใต้การประเมินของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS)
โดยมีใจความน่าสนใจว่า ในเดือน ก.ย. ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเดินหน้าต่อจากสัญญาณ Covid-19 ที่ดูดีขึ้นในหลายมิติ ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ความเพียงพอของวัคซีน และเดินหน้าฉีดให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตามการขยับตัวขึ้นของดัชนียังขาดความมั่นคง รวมถึง Fund Flow ที่ไหลเข้ายังขาดความเสถียร ด้วยหลายเหตุผล 1.ความกังวลประเด็น QE Tapering มีโอกาสเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐยังยืนระดับสูงต่อเนื่องจากฐานต่ำช่วงไตรมาส 4/63 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐมีการ Lockdown พอดี
2.ตลาดหุ้นโลกปัจจุบันมีค่า P/E ที่สูงกว่าช่วงก่อนเกิด Covid-19 ช่วงต้นปี 63 แล้ว อาทิ ตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันมี P/E สูงกว่า 20 เท่า แต่ช่วงก่อนเกิด Covid-19 ซื้อขายบน P/E ที่ 18–19 เท่า เท่านั้น 3.แม้ภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนครึ่งแรกปี 64 ออกมาดี 5.35 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 121%yoy) ส่งผลให้นักวิเคราะห์มีการปรับลดกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2564 ลงน้อยกว่าคาด (ฝ่ายวิจัย ASPS ปรับขึ้นเป็น 73.6 บาท/หุ้น) แต่แนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลัง 64 มีโอกาสลดลง -42% จากครึ่งแรก ถือเป็นอุปสรรคในการขยับขึ้นของดัชนี
ทั้ง 3 ปัจจัยที่กล่าวมา อาจส่งผลให้ Fund Flow ที่ไหลเข้าในช่วงนี้ อาจเป็นลักษณะการเก็งกำไรเป็นรายประเทศ ก่อน Fed เริ่มลด QE ขณะที่แรงขับเคลื่อนตลาดต่อจากนี้ ต้องพึงพิงเม็ดเงินในประเทศเป็นหลัก เนื่องจาก กนง. น่าจะยังไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ทำให้ยัง เห็นการ Search For Yield ของนักลงทุนในประเทศต่อเนื่อง
สะท้อนได้จากในปีนี้ ยังมีแรงหนุนจากนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท (จากต้นปีถึงปัจจุบัน) ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่ในช่วง 7 เดือนแรกของปีสูงถึง 1.25 ล้านบัญชี (เพิ่มขึ้น 173% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน)
ในมุมของ Valuation ฝ่ายวิจัย ASPS คงดัชนีเป้าหมายที่ 1670 จุด ถือว่าสมเหตุสมผล ภายใต้ EPS64F ที่ 73.6 บาท/หุ้น มี Market Earning Yield Gap. อยู่ที่ระดับ 3.9% (ระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยในอดีต) และ EPS Growth64F ที่ 38% รวมถึง PER64F ที่ 22.7 เท่า
กลยุทธ์ในการเอาชนะตลาดในเดือน ก.ย. ต้องเน้นหุ้นที่มีผลประกอบการช่วงที่เหลือของปีโดดเด่น มีปัจจัยเฉพาะตัวหนุน โดย ฝ่ายวิจัยฯ แบ่งธีมการลงทุนหลักๆ ออกเป็น 3 ธีม 7 หุ้นเด่น คือ หุ้น Low Interest Rate : SPALIมูลค่าที่เหมาะสม 25.50 บาท, JMTมูลค่าที่เหมาะสม 57.00 บาท
หุ้น Earning Momentum : SFLEXมูลค่าที่เหมาะสม 5.90 บาท, KCEมูลค่าที่เหมาะสม 100.00 บาท หุ้น Re-open Economy : Mมูลค่าที่เหมาะสม 58.00 บาท, COM7มูลค่าที่เหมาะสม 80.00 บาท, AOTมูลค่าที่เหมาะสม 69.99 บาท

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0