หลังประกาศปิดโรงงาน 4 แห่งในสหรัฐอเมริกาจนสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ กับประธานาธิบดี Donald Trump โกรธเกรี้ยว ทาง GM ก็ออกมาย้ำอีกว่า แรงงานในอุตสาหกรรมนี้ถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ยากแน่ๆ
อนาคตที่ไม่ได้สบายเหมือนในอดีต
ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตรถยนต์แทบจะเป็นเสือนอนกิน เพราะแข่งกันแค่ผู้ผลิตรถยนต์ด้วยกัน และไม่ได้มีความท้าทายทางธุรกิจมากนัก แต่ปัจจุบันมันมีทั้งนโยบายลดมลพิษ และ Startup ใหม่ๆ ที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีจนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับออกมาแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิม
จากจุดนี้เอง Mary Barra ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่ม GM ก็ออกมาตอกย้ำให้แรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ตื่นตัวอีกครั้ง ผ่านการชี้ให้เห็นว่า ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
“อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าบริษัทไหนต้องการเติบโต รวมถึงสร้างงานเพิ่ม ก็ไม่สามารถทำอย่างเดิมได้ตลอดไป” Mary Barra กล่าว และแสดงให้เห็นว่าตัวแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นต้องมีทักษะมากขึ้น เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับด้วย
สำหรับตัวโรงงานในสหรัฐอเมริกาของ GM ที่ปิดไปนั้น ทางบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาขายให้กับ Startup ที่ต้องการทำตลาดรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ทาง GM ยังยืนยันว่าต้องการสร้างงานในสหรัฐฯ ต่อไป แม้มันจะค่อนข้างท้าทายในการทำตลาดก็ตาม
ขณะเดียวกัน Mark Stewart ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Fiat Chrysler Automobiles อเมริกาเหนือ ก็ย้ำไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ผลิตรถยนต์ทุกราย รวมถึงแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ก็ต้องปรับตัวเพื่อรองรับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับให้ได้
สรุป
ปัญหาแรงงานกลายเป็นเรื่องที่น่าจับตามองในอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะปัจจุบันทักษะของแรงงานเหล่านี้ยังไม่รองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับเท่าไรนัก ทำให้หากจะอยู่ในสายงานนี้จริงๆ การอบรม และเพิ่มทักษะให้กับตัวเองก็เป็นเรื่องจำเป็น มิฉะนั้นอาจโดนลอยแพไม่รู้ตัวเหมือนที่ GM ทำไปก่อนหน้านี้
อ้างอิง // Japan Today
