ช่วงต้นปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าวเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งตัดสินใจที่จะ สวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสนี้ตามที่ทางกรมควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ (CDC - The Centers for Disease Control and Prevention), องค์การอนามัยโลก (WHO - World Health Organization) และกระทรวงสาธารณสุขประกาศไว้
ภาพจาก : http://rs.n1info.com/English/NEWS/a560855/Opposition-party-youth-wing-pollution-protest.html
ซึ่งจากสถานการณ์ของโรคระบาดที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะสามารถควบคุมได้นี้ CDC จึงได้ออกมาเตือนผู้คนส่วนหนึ่งว่า การไว้หนวดเคราอาจลดประสิทธิภาพการทำงานของหน้ากากอนามัยลง เพราะพื้นที่ของหนวดหรือเครานั้นอาจทำให้หน้ากากอนามัยแนบใบหน้าไม่สนิท และมีช่องว่างให้เชื้อไวรัสแทรกเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย นอกจากนี้อนุภาคของเชื้อไวรัสยังมีโอกาสที่จะจับตัวติดอยู่บริเวณหนวดเคราเมื่อเราหรือบุคคลรอบข้างจาม ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าการไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเสียอีก
และไม่เพียงแค่หนวดเคราจะเป็นอุปสรรคกับการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเพียงเท่านั้น แต่สำหรับการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นต่างๆ เองก็ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามCDC ไม่ได้ต่อต้านหรือห้ามการไว้หนวดเครา เพียงแต่แนะนำว่าการโกนหนวดเคราให้เกลี้ยงจะช่วยให้สามารถใช้หน้ากากอนามันได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพียงเท่านั้น และได้ทำภาพInfographic ออกมาแนะนำ “ทรงหนวดเครา” ต่างๆ ที่ปลอดภัยแก่การสวมใส่หน้ากากอนามัย
ภาพจาก : https://blogs.cdc.gov/niosh-science-blog/2017/11/02/noshave/
โดยในรูป Infographic นี้จะมีรูปใบหน้าที่มีกรอบสีน้ำตาลบริเวณสันจมูกถึงใต้คาง แสดงบริเวณที่หน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้าเอาไว้ และจะสังเกตได้ว่าทรงของหนวดเคราที่ทาง CDC แนะนำนั้นเป็น หนวดที่สามารถสวมใส่เพื่อปกปิดได้มิดทั้งหมด และไม่แนะนำให้ไว้เคราใต้คาง เพราะมีโอกาสที่เคราจะดันหน้ากากอนามัยให้เปิดออกได้ง่ายนั่นเอง
ภาพจาก : https://blogs.cdc.gov/niosh-science-blog/2017/11/02/noshave/
สำหรับใครที่ไว้หนวดเคราก็คงจะต้องตัดใจ โกนเคราออก หรือเปลี่ยนทรงหนวด ตามรูปภาพข้างต้นเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองไปสักระยะก่อน
