โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

SHR เริ่มเห็นแววพลิกมีกำไร ตุนเงิน 1.6พันลบ. ลุยซื้อกิจการ

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 02.53 น. • เผยแพร่ 26 ส.ค. 2564 เวลา 12.15 น. • This’s Alano

นางสาวศมิษฐา ทินนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในแต่ละประเทศที่ฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 64 จึงคาดว่าปี 2564 จะมีรายได้ระดับ 4-4.5 พันล้านบาท ขณะที่ปี 2565 บริษัทวางเป้าจะมีรายได้เติบโต 10% จากปี 64 หากสถานการณ์กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาตามที่ประเมินไว้
ทั้งนี้ในปี 2564-65 บริษัทยังมุ่งเน้นการบริหารจัดการเพื่อให้ผลประกอบการในแต่ละแพลตฟอร์มดีขึ้น ซึ่งในสถานการณ์โควิด บริษัทมีการปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ของแต่ละประเทศที่บริษัทมีโรงแรมให้สอดคล้องกับอัตราการเข้าพัก
โดยในปี 2564-65 บริษัทยังมีแผนขายโรงแรมในสหราชอาณาจักรประมาณ 4-6 โรงแรม โดยเน้นขายโรงแรมที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เพื่อจะนำเงินมาให้เป็นเงินทุนในการปรับปรุงโรงแรมที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า หรือมีแนวโน้มการเติบโตในรูปแบบของผลการดำเนินงาน
สำหรับผลการดำเนินการเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เห็นได้จาก เดือนก.ค.โรงแรมใน UK มี Occupancy Rate ดีขึ้นที่ 59% จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และคาดเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจในครึ่งหลังของปีนี้ จากการเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว และยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางทั้งหมด
ส่วนโครงการ CROSSROADSจำนวนนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ของจากมีการเปิดประเทศ ทำให้คาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังเช่นกัน เห็นได้จาก Occupancy Rateเดือนก.ค. อยู่ที่ระดับ 56% แล้ว ส่วนโรงแรมในประเทศไทยยังมีความท้าทาย เพราะแผนในการเปิดประเทศ และกระจายวัคซีนยังไม่มีความชัดเจน แต่โครงการภูเก็ต sandboxมีผลตอบรับค่อนข้างดี ทำให้อัตราการเข้าพักดีขึ้น
ส่วนการพัฒนาโรงแรมบนเกาะ 3 ของ CROSSROADSที่ถือหุ้นในสัดส่วน 50% คาดว่าการก่อนสร้างจะเริ่มภายในปลายปีนี้ และแล้วเสร็จปี 2566 มูลค่าการลงทุน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการเช่นกัน เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม และเพื่อสร้างความหลากหลายในแก่พอร์ตธุรกิจในปี 2566อย่างไรก็ตามโครงสร้างเงินทุนนั้น บริษัทมีอัตราเงินกู้ยืมที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่เพียงระดับ 0.87 เท่า เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ระดับ 1.5 เท่า จึงยังมีโอกาสขยายธุรกิจได้อีก ทั้งในรูปแบบการเข้าซื้อกิจการ
โดยบริษัทยังมีแผนบริหารสภาพคล่องต่อเนื่อง โดยสิ้นไตรมาส 2/64 มีเงินสด (Cash Balance) ที่ระดับ 1,698.4 ล้านบาท รวมทั้งสินเชื่อที่มีอยู่ (Available credit facility) ที่ระดับ 1,005.8 ล้านบาท โดยมี IBD/E ที่ระดับ 0.87เท่า และ Net IBD/E เพียง 0.77เท่า
“การกระจายตัวของโรงแรมบริษัทได้รับผลกระทบในเรื่องผลกระทบของซีซั่นที่น้อย เพราะในแต่ละโรงแรมมีซีซั่นที่แตกต่างกันออกไป อาทิ สหราชอาณาจักร ไฮซีซั่นจะอยู่ที่ไตรมาส 2-3 ของทุกปี ส่วนในประเทศไทย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสาธารณรัฐ มอริเชียส ไฮซีซั่นจะอยู่ที่ไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปี” นางสาวศมิษฐา
สำหรับบริษัทมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วทั้งหมด 38 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมที่บริษัทบริหารจัดการเอง โรงแรม Outrigger โรงแรมในโครงการ CROSSROADS เฟส 1 โรงแรมของบริษัทในสหราชอาณาจักร และโรงแรมที่มีการดำเนินงานในลักษณะการร่วมค้า ซึ่งมีจำนวนห้องพักรวมกันทั้งสิ้น 4,522 ห้อง โดยมีโรงแรมกระจายอยู่ในประเทศไทย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ สาธารณรัฐ มอริเชียส สหราชอาณาจักร

เริ่มเห็นแววมีกำไร

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังพอมีโอกาสเห็นกำไรรายไตรมาสเร็วสุดในไตรมาส 1/65 ได้ แต่ผู้บริหารก็มีความมั่นใจที่ลดลงจากเดิม โดยตัวแปรอยู่ที่ ADR ว่าจะฟื้นตัวได้อย่างที่คาดหรือไม่ ขณะที่ IBD/E อยู่ที่ 0.9x และถ้ารวมขาดทุนที่เกิดขึ้นในครึ่งหลังของปี 64 น่าจะขึ้นมาที่ 1.0x ทำให้ยังไม่กังวลต่อสภาพคล่องและการเพิ่มทุน
ยังคงแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งหลังปี 64 ที่ขาดทุนปกติ (Norm. loss) ราว 625 ล้านบาท หากเทียบกับครึ่งหลังปี 63 ที่ขาดทุน 1,003 ล้านบาท และในครึ่งแรกของปี 64 ที่ขาดทุน 985 ล้านบาท ถึงแม้ขาดทุนลดลงจากปีก่อน หรือในครึ่งแรกของปี 64 แต่ตัวเลขขาดทุนถือว่าค่อนข้างสูง โดยให้น้ำหนักปี 65 ที่มีโอกาสพลิกเป็นกำไรสุทธิมากกว่า คง TP22F = 3.50 บาท/หุ้น และคงคำแนะนำ Trading Buy

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0