โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี

Thaiware

อัพเดต 29 ม.ค. 2563 เวลา 07.00 น. • เผยแพร่ 29 ม.ค. 2563 เวลา 07.00 น. • moonlightkz
Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
ไม่ใช่เรื่องแปลก หากของฟรีจะต้องมีการแลกมาด้วยอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน

จะเกิดอะไรขึ้น หากแอนตี้ไวรัสที่คุณหวังว่าจะใช้ปกป้องข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัย กลายเป็นผู้ร้ายที่กระทำการดังกล่าวเสียเอง

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2019 Wladimir Palant ผู้พัฒนา Adblock Plus ได้เคยออกมารายงานผ่านเว็บไซต์ของเขาว่า Avast Online Security extension ของบริษัท Avast antivirus ที่มีผู้ใช้กว่า 400 ล้านคน มีการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้อย่างละเอียดเพื่อนำไปหารายได้จากบริษัทโฆษณา และต่อให้คุณไม่ได้  Avast Online Security แต่หากคุณใช้เว็บเบราว์เซอร์ Avast Secure Browser ก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เพราะเว็บเบราวเซอร์ดังกล่าวมีการซ่อนฟังก์ชันแบบเดียวกันเอาไว้ด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงการที่ Avast ได้ซื้อกิจการ AVG เมื่อปี 2016 ทำให้ไม่น่าแปลกใจหาก AVG Secure Browser ที่มาพร้อมกับ AVG Online Security extension จะมีพฤติการณ์เดียวกันด้วย

Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี

ภาพจาก https://chrome.google.com/webstore/detail/avast-online-security/gomekmidlodglbbmalcneegieacbdmki?hl=th

Palant ได้ระบุว่าข้อมูลที่เก็บไปมีทั้งชื่อเฉพาะของบัญชีผู้ใช้, รายชื่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน, คลิกสินค้าที่คุณเลือกซื้อ ฯลฯ เพื่อนำไปขายต่อผ่าน Jumpshot บริษัทขายข้อมูลสำหรับ Digital Marketing ซึ่งมี Avast เป็นเจ้าของ

Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี


ภาพจาก https://www.vice.com/en_us/article/qjdkq7/avast-antivirus-sells-user-browsing-data-investigation

หลังรายงานของ Palant ถูกเผยแพร่ออกมา Google ได้ลบ Extensions ทั้ง 2 ตัวออกไปจากระบบทันที แต่ก็กลับมาอีกครั้ง โดยทาง Avast ได้ยืนยันว่าได้ยุติการเก็บข้อมูลผ่านทาง Extensions แล้ว เหลือไว้แค่ความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ใน Avast Free Antivirus ยังมีการเก็บข้อมูลต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ อันที่จริง ทาง Avast ได้มีการชี้แจงอย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนที่ติดตั้งซอฟต์แวร์อยู่แล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าข้อมูลที่ถูกเก็บไป จะมีการลบร่องรอยที่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานให้อย่างเรียบร้อย ผู้ที่ได้ข้อมูลไปจะไม่สามารถสืบหาต้นตอของข้อมูลได้อย่างแน่นอน 

แต่ก็อย่างที่รู้กันว่า ผู้ส่วนใหญ่มักละเลยในรายละเอียดแบบนี้ และกดยินยอมไปแบบไม่รู้ตัว

Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี


ภาพจาก https://lifehacker.com/use-these-antivirus-and-anti-malware-apps-instead-of-av-1841264690

อย่างไรก็ตาม Vice Motherboard และ PCMag ได้ร่วมกันรายงานว่า การลบร่องรอยจนไม่สามารถระบุตัวตนที่ทาง Avast อ้าง นั้นมันไม่จริง ข้อมูลดังกล่าวยังสามารถใช้ในการระบุตัวตนได้ ด้วยการใช้เทคนิคเปรียบเทียบข้อมูล

PCMag ได้ยกตัวอย่าง ว่าข้อมูลที่ถูกลบร่องรอยแล้วจะอยู่ในลักษณะด้านล่างนี้

Device ID: abc123x Date: 2019/12/01 Hour Minute Second: 12:03:05
Domain: Amazon.com Product: Apple iPad Pro 10.5 - 2017 Model - 256GB, Rose Gold Behavior: Add to Cart

ดูจากข้อมูลดังกล่าว ก็ดูแล้วไม่น่ามีอะไรที่จะใช้ในการสืบสาวไปหาต้นตอของแหล่งที่มาของข้อมูลได้ เรารู้แค่ว่ามีใครสักคน ซื้อ iPad จาก Amazon กับช่วงเวลาคร่าวๆ 

แต่ถ้าคุณเป็น Amazon ล่ะ?

หาก Amazon เป็นคนได้ข้อมูลนี้ไป มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเอาข้อมูลที่ได้ ไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลการซื้อขายในระบบ เพื่อค้นหาว่าใคร คือ ผู้ที่ซื้อ iPad ไปในช่วงเวลานั้น ซึ่งแน่นอนว่า Amazon ก็มีข้อมูลอย่างชื่อ- ที่อยู่ของผู้ซื้อในมืออยู่แล้ว นั่นหมายความว่า การลบร่องรอยข้อมูลที่ Avast เคลมไว้ ไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงสักเท่าไหร่

แม้ข้อมูลจาก Jumpshot จะไม่ระบุตัวตน แต่มีความเป็นไปได้ที่จะนำไปใช้เทียบกับฐานข้อมูลอื่นๆ เพื่อระบุตัวตนได้

ยังมีเรื่องน่าสนใจอีกประเด็นหนึ่ง คือ Jumpshot นำเสนอบริการด้านข้อมูลที่ครบวงจรมาก ในเดือนธันวาคม ปี 2018 Jumpshot ได้ตกลงทำสัญญากับ Omnicon Media Group ผู้ให้บริการด้านการตลาดรายใหญ่ ในข้อตกลงที่ถูกเรียกว่า "All Clicks Feed" ซึ่งเป็นการขายข้อมูลของ Jumpshot ที่ปกติจะไม่มี "Device IDs" แต่กับสัญญาที่ทำกับ Omnicon นั้น Jumpshot ให้ Device IDs ไปด้วย รวมถึงข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ ช่วงเวลาในการคลิกที่ละเอียดในระดับเสี้ยววินาที นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการคาดเดาเพศ และอายุ ที่อาศัยการประเมินจากรายชื่อเว็บไซต์ที่เคยเข้า

THANKS to all our Year-in-Review webinar attendees and our live-tweet friends!
Feel free to reach out if you have any questions or comments. And, KUDOS to Jumpshot’s @stephenkraussf and @stevelevay for another fantastic webinar. pic.twitter.com/GkpWOwR3LS

— Jumpshot (@jumpshotinc) 12 ธันวาคม 2562

ไม่มีการเปิดเผยว่าทำไม Omnicon ถึงต้องการข้อมูลดังกล่าวด้วย แต่ Annalect ที่เป็นบริษัทในเครือของ Omnicon ได้มีบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถเปรียบเทียบฐานข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ด้วย 

Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
Avast และ AVG เก็บข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้ไปขายต่อผ่านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี


ภาพจาก https://www.annalect.com/

แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดเห็นอย่างไร กับประเด็นนี้?

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0