โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

!!! America จะขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งเป็นผู้นำส่งออกน้ำมันแทน Saudi Arabia !!!

Stock2morrow

อัพเดต 20 มี.ค. 2562 เวลา 04.03 น. • เผยแพร่ 20 มี.ค. 2562 เวลา 02.42 น. • Stock2morrow
!!! America จะขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งเป็นผู้นำส่งออกน้ำมันแทน Saudi Arabia !!!
!!! America จะขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งเป็นผู้นำส่งออกน้ำมันแทน Saudi Arabia !!!

สหรัฐอเมริกากำลังจะขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งในการส่งออกน้ำมันแทนที่ซาอุดิเบียในอีกไม่กี่ปีนี้ จากข้อมูลของ Rystad Energy พบว่า สหรัฐจะเพิ่มกำลังการส่งออกน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเช่น แก๊ซโซลีน มากขึ้น จนทำให้การส่งออกดังกล่าวมากกว่าเจ้าตลาดเดิมอย่างซาอุดิอาระเบีย

.

รายงาน Rystad ยังได้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอีกว่า แรงขับเคลื่อนสำคัญในการจะเป็นผู้นำการส่งออกทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ เกิดจากการผลิต Shale Gas เพิ่มขึ้นอย่างมาก (Transformation Shale Boom) โดยการนำเทคโนโลยีการขุดเจาะที่ทันสมัยมาใช้ในการดำเนินการ ซึ่งแต่เดิมซาอุดิอาระเบียได้เป็นผู้นำการส่งออกมาตั้งแต่ปี 1950

.

“หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ใครจะไปรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้” Ryan Fitzmaurice นักวิเคราะห์ด้านพลังงานที่ Robobank ได้กล่าวไว้

.

จุดเปลี่ยนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความทันสมัยของเทคโนโลยีที่ใช้ในการขุดเจาะดีขึ้นอย่างมาก โดยนำนวัตกรรมการขุดเจาะได้นำไปสู่การนำทรัพยากรทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติออกมาใช้งานได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ใน Texas, North Dakota และที่อื่นๆ

.

การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงทศววรษที่ผ่านมา โดยสหรัฐได้สูบน้ำมันขึ้นมาใช้มากกว่าประเทศอื่นๆ เช่น รัสเซีย และ ซาอุดิอาระเบีย

“ปรากฏการณ์ Shale Boom ที่เกิดขึ้นได้ขับเคลื่อนการเพิ่มการผลิตได้เป็นอย่างมาก” กล่าวโดย Fitzmaurice

.

ในอดีตที่ผ่านมา สภาครองเกรสได้เสนอประเด็นห้ามการส่งออกน้ำมันเป็นระยะเวลา 40 ปี อีกทั้งช่วงเวลานั้น สหรัฐยังอยู่ระหว่างการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานบริเวณปากอ่าวชายฝั่งหลายแห่งของสหรัฐเพื่อรองรับความต้องการน้ำมันดิบสหรัฐที่ไม่แน่นอนของลูกค้าต่างชาติ โดย“การผลิตน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติที่เป็นส่วนเกินจะถูกส่งออกให้กับประเทศแถบเอเชียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว” Per Magnus Nysveen หุ้นส่วนอาวุโสของ Rystad Energy ได้กล่าวไว้ในรายงาน

.

“Oil dominance”

ปัจจุบัน ซาอุดิอาระเบียได้ส่งออกน้ำมันดิบปริมาณ 7 ล้านบาเรลล์ต่อวัน และก๊าซธรรมชาติเหลวปริมาณ 2 ล้านบาเรลล์ต่อวัน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่างๆ หากเปรียบเทียบกับสหรัฐแล้ว สหรัฐส่งออกน้ำมันดิบปริมาณ 3 ล้านบาเรลล์ต่อวัน ส่วนก๊าซธรรมชาติเหลวมีปริมาณส่งออก 5 ล้านบาเรลล์ต่อวัน รวมถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเช่นเดียวกัน

.

Rystad ได้คาดการณ์ว่า ช่องว่างส่วนต่างของการส่งออกของทั้งสองประเทศจะหมดไปในปีนี้ แม้ว่าซาอุดิอาระเบียจะพยายามรักษาผู้นำการส่งออกน้ำมันดิบเพียงรายเดียวก็ตาม

.

Permian Basin ของ West Texas ได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิต โดยการนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาใช้ในการขุดเจาะ ลดต้นทุนการผลิต ขณะที่สามารถผลิตออกมาได้มากขึ้น จนทำให้สร้างกำไรให้กับบริษัทได้มากขึ้น

.

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังมองว่า ExxonMobil (XOM) ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรายใหญ่ของสหรัฐยังช้าในเกมส์นี้ โดยการผลิตใน Permian Basin สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้เพียง 10% หรือประมาณ 35 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลล์ ทั้งนี้ Exxon มีแผนที่จะผลิตน้ำมันให้ได้ 1 ล้านบาเรลล์ต่อวันที่ Permian ภายในปี

.

นอกจากนั้น Nysveen ได้กล่าวว่า “กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการผลิต และความต้องการการใช้ Light oil และ Gasoline ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สหรัฐกลายเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้”

stock2morrow

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0