โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

All Weather Strategy กันยายน 2019: เพิ่มสัดส่วนหุ้นประเทศพัฒนาแล้วแถบยุโรป

Finnomena

อัพเดต 18 ต.ค. 2562 เวลา 03.27 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2562 เวลา 03.26 น. • Andrew Stotz

ในบทความนี้เราจะมาอัปเดตผลการดำเนินงานของพอร์ต ประจำเดือนกันยายน 2019 กัน รวมถึงมุมมองต่อตลาดด้วยครับ

รีวิว

  • ปัจจุบันพอร์ตลงทุนในหุ้น 65%
  • ลงทุนหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วแถบยุโรปเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 25%
  • ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ต A Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานเหนือตลาดหุ้นโลก อยู่ที่ 2.5%
  • ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตมีความผันผวนเพียงแค่ครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก
  • ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตการลงทุนนี้มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกับที่ตลาดหุ้นโลกปรับลดลง

มุมมองอนาคต

  • คาดว่า Fed จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • คาดว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะยังคงหาข้อสรุปไม่ได้

สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค

มาเริ่มที่ประเด็นแรกเลยครับ

รีวิว: ปัจจุบันพอร์ตลงทุนในหุ้น ร้อยละ  65

  • มูลค่าพื้นฐานของหุ้นมีค่าที่สูง และดูเหมือนว่าปัจจัยพื้นฐานของหุ้นได้ผ่านจุดที่สูงสุดไปแล้ว
  • ในเดือนกันยายน 2019 เราเพิ่มเป้าหมายในการกระจายการลงทุน ไปยังหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วแถบยุโรป จาก 5% เป็น 25% ซึ่งทำให้สัดส่วนการลงทุนของหุ้นในพอร์ตนั้น เปลี่ยน จาก 45% เป็น 65%
  • การตัดสินใจปรับสัดส่วนของหุ้นในพอร์ต ส่งผลดีต่อพอร์ต AWS เป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับแรงหนุน จากปัจจัยเรื่องผลตอบแทนที่ดีของหุ้นประเทศพัฒนาแล้วในยุโรป ซึ่งมีผลตอบแทนโดดเด่นเป็นอันดับที่ 2

รีวิว: เม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของทองคำแย่

  • ในเดือนกันยายน ผลตอบแทนจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร โลหะที่ใช้ในอุตสาหกรรม และน้ำมัน ในขณะที่โลหะมีค่ามีผลการดำเนินงานที่แย่
  • Fed ลดอัตราดอกเบี้ย ไป 0.25% ในเดือนกันยายน ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง
  • การที่เม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงกว่า นำไปสู่ผลตอบแทนที่ลดลงของสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น ทองคำ  ซึ่งเป็นผลเชิงลบสำหรับพอร์ต AWS

รีวิว: เดือนกันยายน 2019 : เราเพิ่มการลงทุนหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วแถบยุโรป จาก 5% เป็น 25%

All Weather Strategy กันยายน 2019
All Weather Strategy กันยายน 2019

รูปที่ 1: รูปเปรียบเทียบผลตอบแทน AWS กับสินทรัพย์อื่น ๆ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • ผลการดำเนินงานของ พอร์ต AWS แย่กว่าตลาดหุ้นโลก 0.7% เนื่องจากผลตอบแทนของทองคำต่ำ
  • มีการกระจายการลงทุนในหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วแถบยุโรป สหรัฐฯ และทองคำ โดยให้น้ำหนักการลงทุนไปยังแต่ละสินทรัพย์ คือ 25%

รีวิว: ตั้งแต่ก่อตั้ง: All Weather Srategy มีผลการดำเนินงานเหนือตลาดหุ้นโลก อยู่ที่ 2.5%

All Weather Strategy กันยายน 2019
All Weather Strategy กันยายน 2019

รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่าง AWS และ MSCI World ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

นับตั้งแต่ก่อตั้ง All Weather Srategy มีผลการดำเนินงานเหนือตลาดหุ้นโลกอยู่ที่ 2.5% ด้วยการลงทุนในตราสารทุน 45% ในเดือนกันยายนนั้น เรามีมุมมองในการทบทวนหน้าพอร์ตใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน จากเดิม 45% เป็น 65%

รีวิว: ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตมีความผันผวนเพียงแค่ครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก

All Weather Strategy กันยายน 2019
All Weather Strategy กันยายน 2019

รูปที่ 3: ความผันผวนของแต่ละสินทรัพย์ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ความผันผวนของ All Weather Strategy คิดเป็นเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก จนถึงเดือนกันยายน 25% ของเงินลงทุนถูกแบ่งสัดส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งช่วยลดความผันผวนของกลยุทธ์การลงทุน ขณะเดียวกันตลาดหุ้นของประเทศฝั่งตะวันตกมีความผันผวนน้อย

รีวิว: ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตการลงทุนนี้มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกับที่ตลาดหุ้นโลกปรับลดลง

All Weather Strategy กันยายน 2019
All Weather Strategy กันยายน 2019

รูปที่ 4: ผลดำเนินงานของ 10 วันที่แย่ที่สุดของหุ้นโลก เทียบกับ AWS ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)

ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ลักษณะที่โดดเด่นของ AWS คือ ตั้งเป้าให้ปรับตัวลงน้อยกว่าเมื่อใดที่ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง ตลอดเวลานับตั้งแต่ก่อตั้งพอร์ต ข้อมูลของ 10 วันที่ตลาดหุ้นมีผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุด พบว่าผลตอบแทนของ AWS ลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลกทุกวัน

มุมมองอนาคต: คาดว่า Fed จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย

  • ประเด็นของหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงิน เป็นผลบวกต่อทองคำ แต่เป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
  • มีแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เพื่อป้องกัน การเกิด Recession ในเศรษฐกิฐสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ ที่จะเกิดการกลับตัวของ Yield curve (ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวน้อยกว่าพันธบัตรระยะสั้น) มุมมองของตลาดพบว่ามีความเป็นไปได้มาก ประมาณ 80% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้ง ในเดือนตุลาคม
  • ซึ่งอัตราผลตอบแทนที่ลดลงจะหนุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นในระยะสั้น

มุมมองอนาคต: คาดว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะยังคงหาข้อสรุปไม่ได้

  • การที่สงครามการค้ายังคงหาข้อสรุปไม่ได้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว
  • ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง หลังเกิดการโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย
  • ความไม่สงบในฮ่องกงสร้างแรงกดดันให้แก่ประเทศจีน
  • สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลเชิงลบต่อมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในอนาคต
  • ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค

All Weather Strategy กันยายน 2019
All Weather Strategy กันยายน 2019

รูปที่ 5: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Thomson Reuters)

พื้นฐาน (Fundamentals): หุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น ROE (Return on Equity) สูงที่สุด มูลค่า (Valuations): ตลาดกำลังพัฒนามีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ค่อนข้างต่ำ และ ญี่ปุ่นมีราคาต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) ต่ำที่สุด แนวโน้ม (Momentum): ราคาค่อนข้างแย่ และการขยายตัวของสัดส่วนกำไรต่อหุ้น (EPS) แย่ในทั่วทุกภูมิภาค ความเสี่ยง: กลุ่มเอเซียแปซิฟิคมีอัตราหนี้สินต่อทุน (gearing) ต่ำที่สุด

สรุป รีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนกันยายน 2019

  • พวกเรายังคงระมัดระวังในการลงทุนในตราสารทุน และติดตามเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
  • ตลาดคาดหวังให้ Fed มีการลดอัตราดอกเบี้ย
  • การหาข้อสรุปไม่ได้ของสงครามการค้าของสหรัฐฯ และจีน ส่งผลเชิงลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในอนาคต
  • The All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ดีในด้านของผลตอบแทนและความผันผวน โดยลงทุนหนักไปที่ทองและตราสารหนี้
  • เพิ่มการลงทุนในหุ้นยุโรปที่พัฒนาแล้ว 25% และ ลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เหลือ 5%
  • ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะหนุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นในระยะสั้นAndrew Stotz

**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน  | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0