ถือว่าหนังเหนียวเอาเรื่องสำหรับการคัมแบ็คของ Giulietta ซึ่งผ่านมาจนถึงปีนี้แล้วก็ยังไม่มีวี่แววของการเปลี่ยนโฉม หรือโมเดลเชนจ์กันสักทีทั้งที่ Alfa เปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2010 และที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นแค่การไมเนอร์เชนจ์ หรือปรับโฉมกระตุ้นตลาดอีกระลอก
Giulietta เป็นการปัดฝุ่นนำชื่อนี้กลับมาใช้อีกครั้งหลังจากที่เคยทำตลาดระลอกแรกมาแล้วในช่วงปี 1954-1965 และ 1977-1985 โดยรุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังของรถยนต์ระดับคอมแพ็กต์ของเครือ Fiat ร่วมกับ Chrysler และเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งจะต่างจาก 2 รุ่นแรก ที่เป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลัง
การปรับโฉมครั้งนี้ มีในระดับหนึ่ง เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเกี่ยวไฟหน้า หรือใช้ร่วมกับรุ่นปรับโฉมก่อนหน้านี้ ที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 แต่ก็มีการเปลี่ยนกระจังหน้าและกันชนหน้าลายใหม่ เพิ่มความหรูหรา ด้วยขอบคิ้วโครเมียม ขณะที่ด้านท้ายมีการปรับปรุงส่วนของเลนส์ไฟท้ายให้มีสีสันแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยในส่วนของไฟถอยหลัง ขณะที่รูปแบบและรูปทรงของกันชน และช่อง Diffuser ด้านล่างยังเหมือนเดิม
สำหรับสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในรุ่นใหม่ คือ การเพิ่มทางเลือกของเครื่องยนต์ โดยในรุ่นเบนซินจะมีการปรับปรุงในส่วนของรุ่น 1,600 ซีซี เทอร์โบ 120 แรงม้า ที่สามารถเลือกได้ว่าจะจับคู่กับเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ อย่าง Alfa TCT ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลก็จะมีขายกับทางเลือก 1,600 และ 2,000 ซีซี
นอกจากเครื่องยนต์และหน้าตาที่มีการปรับนิดหน่อยแล้ว ในส่วนของการตกแต่งภายในและอุปกรณ์มาตรฐานก็มีเพิ่มขึ้น ซึ่งทุกรุ่นจะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Touchscreen ขนาด 5 นิ้ว ลวดลายของวัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสารมีเปลี่ยนใหม่ โดยจะเน้นไปที่ลาย ที่ดูคล้ายคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อความสปอร์ต การเพิ่มสีตัวถังใหม่ และล้อแม็กลายใหม่ ที่มีให้เลือกระหว่าง 17 และ 18 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
ดูแล้วน่าจะเป็นการปรับโฉมครั้งสุดท้ายของ Giulietta แล้ว และเชื่อว่าอีกไม่น่าเกิน 2 ปีน่าจะมีการเปลี่ยนโฉมใหม่…ในกรณีที่ Alfa ยังจะใช้ชื่อนี้ในการทำตลาดต่อไปนะ
