แม้จะเปิดตัวยาสีฟัน Toothpaste ไปทั่วโลกแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 ตามหลัง Mousewash แต่ด้วยข้อจำกัดด้านข้อบังคับการจดทะเบียนสินค้า จำเป็นต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ที่ใช้เวลานานกว่าในหลายๆ ประเทศ ในที่สุด Aesop ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในประเทศไทย โดยพร้อมวางจำหน่ายให้แฟนๆ ชาวไทย ของ Aesop แบรนด์จากออสเตรเลียได้ลองใช้กันแล้วในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 นี้
และถ้านึกถึงแบรนด์ Aesop สิ่งที่คนส่วนมากรู้จักโดดเด่นคือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ดูแลผิวหน้าเป็นหลัก ตามด้วยบอดี้แคร์ แฮร์แคร์ รวมถึงน้ำหอม แต่จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นแรกของ Aesop นั้นมีผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกเป็นแชมพู อันถือกำเนิดโดย เดนนิส พาฟิติส (Dennis Paphitis) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Aesop ผู้มีอาชีพเป็นช่างทำผมมาก่อน และมีร้านซาลอนตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย จนทำให้ Aesop เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องส่วนผสมของ Essential Oil ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแบรนด์
หลังจากการผลิตสกินแคร์ แฮร์แคร์ บอดี้แคร์ ก็มาถึงการคิดค้นน้ำยาบ้วนปาก (Aesop Mouthwash) ที่ถูกผลิตขึ้นมาก่อนยาสีฟันนานถึง 6 ปี (ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2013) ด้วยความชื่นชอบของผู้ใช้น้ำยาบ้วนปากจำนวนมาก แบรนด์จึงได้คิดค้นยาสีฟันสูตรแรกชื่อ ‘Aesop Toothpaste’ ขึ้นมาในที่สุด อันถือเป็นไอเท็มที่ช่วยดูแลช่องปากให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น
จุดเด่นของ Aesop Toothpaste นั้นอยู่ที่การเลี่ยงใช้ 3 สิ่งที่มักมีอยู่ในยาสีฟันทั่วไป นั่นคือ SLS (Sodium Lauryl Sulfate) สารที่ทำให้เกิดฟองในการทำความสะอาด สารแซกคาริน (Saccharin) สารเพิ่มความหวานในยาสีฟัน ทำให้การแปรงฟันง่ายขึ้น และยาสีฟันส่วนใหญ่ใส่ฟลูออไรด์ (Fluorine) เพื่อป้องกันฟันผุ แต่ใน Aesop Toothpast ไม่มีส่วนผสม 3 อย่างที่ว่า
ซึ่งทางแบรนด์เผยว่าตั้งใจให้ยาสีฟันสูตรแรกมีความแตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ จุดเด่นแรกคือ การตั้งชื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า Toothpaste และบรรจุภัณฑ์สื่อถึงความเป็นแบรนด์รักษ์โลกจะไม่มีการซีลพลาสติก ส่วนไฮไลต์เรื่องส่วนผสมเน้นส่วนผสมที่ป้องกันฟันผุตั้งแต่ต้นเหตุ (ซึ่งมาจากคราบและหินปูน) ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบ รวมถึงน้ำมันหอมสกัดจาก กระวาน โป๊ยกั๊ก กานพลู และใบสเปียร์มินต์ เพื่อทำความสะอาดช่องปากอย่างหมดจด
ภาพ: Courtesy of Aesop
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
