โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“บลจ.บางกอกแคปปิตอล”...เล็งออก ‘กองทุนนวัตกรรมช่วยลดก๊าซเรือนกระจก’

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 00.12 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. 2564 เวลา 16.21 น.

“บลจ.บางกอกแคปปิตอล”…เตรียมคลอดกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รับกระแสเมกะเทรนด์ใหญ่ของโลก ประเมิน 20-30ปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ชี้เป็นธุรกิจขาขึ้นที่มีความต้องการสูง
นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บลจ.บางกอกแคปปิตอล (BCAP) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนใหม่ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมช่วยลดการปล่อยก๊าสเรือนกระจกหรือ “คลีน อินโนเวชั่น” ซึ่งถือว่าเป็นเมกะเทรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยประเมินว่าตั้งแต่วันนี้จนถึง 20-30ปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาล ตอบรับนโยบายกว่า 196ประเทศทั่วโลก ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2050

(นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา)

“การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นการตอบโจทย์การลงทุนแห่งศตวรรษเพราะถือว่าเป็นนวัตกรรมเพื่อความอยู่รอดของโลก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีกว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) และอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นคือวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะก๊าซ CO2เป็นสาเหตุหลักของปัญหาภาวะโลกร้อน และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในอดีต ระดับของ CO2และอุณหภูมิโลกมีการปรับเข้าสมดุลมาตลอด แต่หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมก็ทำให้เสียสมดุลไปและปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง ขณะที่จีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซ CO2 มากที่สุดในโลกและยังรับมือกับปัญหาได้น้อย”
นางเมธ์วดี ยังกล่าวอีกว่า WWF” หรือ “องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล” คาดการณ์ว่า ถ้าไม่เร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1.5 °C ภายในปี 2040เพิ่มขึ้น 2 °C ภายในปี 2065และเพิ่มขึ้น 4°C ภายในปี 2100ซึ่งธนาคารโลกมองว่าถ้าไม่ได้รับการแก้ไขปล่อยให้อุณหภูมิโลกขึ้นไปถึง 4°C จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เช่นจะเกิดการขาดแคลนอาหาร เพราะพื้นที่บางภูมิภาคของโลกไม่สามารถทำการเกษตรได้ พืชและสัตว์จะหายไปจากโลก 50%ธุรกิจประมงเกิดการสูญพันธุ์ น้ำแข็งจากขั้วโลกละลายหนุนน้ำทะเลขึ้นสูง 3-7เมตร
นางเมธ์วดี อธิบายต่อว่า จากสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ทั่วโลกมีการตื่นตัวลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจากส่งผลให้ทั่วโลกจำเป็นต้องกำหนด การลดโลกร้อน เป็นวาระแห่งชาติ โดยความตกลงปารีสทำให้แผนลดการปล่อยก๊าซ CO2 เป็นรูปธรรมมากขึ้น เห็นได้จากมหาอำนาจของโลก ต่างต้องการเป็นผู้นำเทคโนโลยีลดโลกร้อน
โดยสหรัฐอเมริกา ในยุคของ “โจไบเดน” เป็นประธานาธิบดีกลับมาให้ความสำคัญกับปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกพร้อมกับทุ่มงบลงทุนกว่า 2ล้านล้านดอลลาร์ในพลังงานสะอาด รวมถึงเก็บภาษีสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง
ขณะที่ “สี จิ้นผิง” ประกาศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5ปี ฉบับที่ 14 (ปี 2021-2025) ซึ่งมุ่งเน้นแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจีน โดยต้องการเป็นผู้นำการผลิตเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด และลงทุน 1.7ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการส่งพลังงานสูงและสถานีชาร์ตรถไฟฟ้า
“ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแรงผลักดันทั้งโลกมุ่งสู่ Net Zero CO2 emission ถือเป็นโอกาสการลงทุนแห่งศตวรรษ โดยทางบีแคปมองว่า ปัจจุบันกองทุนส่วนใหญ่จะลงทุนแค่ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ไม่ได้ครอบคลุมไปในธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ที่มีโอกาสในการเติบโตที่สูงมาก”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0