โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ACE แกว่งไร้ทิศทาง จับตา"วิระชัย"ถูกเด้งกระทบแค่ไหน?

efinanceThai

เผยแพร่ 28 ม.ค. 2563 เวลา 02.30 น.

ACE กลายเป็นหุ้นราคาแกว่งๆไร้ทิศทาง หลัง "วิระชัย ทรงเมตตา" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งโดนเด้งเข้ากรุ หวั่นกระทบคอนเนคชั่นประมูลงานในอนาคต แต่! หากมองในด้านพื้นฐานเพียงอย่างเดียวอาจเป็นโอกาสเก็บหุ้น เนื่องจากโครงการในมือที่มียังสามารถจ่ายไฟได้ตามแผน ส่วนผู้บริหารย้ำสามารถเดินหน้าประมูลงานได้ ดันกำลังผลิตแตะ 1,000 MW ตามเป้า

ราคาหุ้น บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ หรือ ACE เปิดตลาดวานนี้(27 ม.ค.) ราคาหุ้นยังคงผันผวน ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ 3.42 บาท และแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 2.46 บาท ก่อนมาปิดตลาดวันทำการล่าสุดที่ 3.08 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 3.75% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 425.40% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

ACE เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าชีวมวลน้องใหม่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อ 13 พ.ย.62 ซึ่งก่อนหน้านั้นสามารถทำกำไรสุทธิเติบโตได้สูงมาก และทำนิวไฮมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามการจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ ดังนี้

 

ปี กำไรสุทธิ(ลบ.) เปลี่ยนแปลง(YoY) 60 334 +149% 61 547 +63% 9M62 567 +32%

แต่ด้วยราคาไอพีโอที่เปิดจองไปถึง 4.40 บาท/หุ้น คิดเป็น P/E ที่ 78.40 เท่า ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลในวันแรกเพียง 5.05 บาท และไม่เคยขึ้นไปแตะระดับดังกล่าวอีกเลย

นอกจากผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่องทุกปีแล้ว ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของหุ้น ACE ก็คือ มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น "กลุ่มทรงเมตตา" นำโดย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ซึ่งดำรงตำแหน่ง "รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" ในขณะนั้น แต่ความพิเศษของผู้ถือหุ้นใหญ่กลับเป็น "ดาบสองคม" ทันที เมื่อ "วิระชัย ทรงเมตตา" ถูกเด้งเข้ากรุ ทำให้ ACE จากหุ้นที่แกว่งตัวกลับมาดิ่งเกือบติดฟลอร์ไปเมื่อ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ประเด็นนี้กระทบแค่ไหน ? 

*** ผู้บริหารยันการดำเนินธุรกิจไม่เกี่ยวข้องกับ"วิระชัย"ผู้ถือหุ้นใหญ่

จากการสำรวจล่าสุดพบว่า นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร ACE ยืนยันว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพและโปร่งใส ดังนั้นการประมูลงานโครงการต่างๆจึงมาจากทีมบริหารเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ซึ่งเป็นเพียงถือหุ้นใหญ่

ดังนั้นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมที่จะเข้าซื้อหุ้นต่อเนื่อง หากราคาหุ้นต่ำกว่าระดับเหมาะสม นอกจากนี้หลังจากปิดสมุดทะเบียนหลังปิดการซื้อขายวันที่ 24 ม.ค.63 แล้ว คาดจะรู้ผลว่ามีนักลงทุนรายใดขายออกบ้างภายในเร็วๆนี้

ล่าสุด "นายพรเมตต์ ทรงเมตตา" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เข้าซื้อหุ้นทั้งหมด 40 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.04 บาท เป็นเงิน 121.6 ล้านบาท และ "นายธีรวุฒิ ทรงเมตตา" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ได้เข้าซื้อหุ้น ACE ทั้งหมด 3 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.04 บาท เป็นเงิน 9.12 ล้านบาท

*** เปิดแผนประมูลโครงการเพิ่ม 1,100 MW คาดชนะ 450 - 550 MW ดันจ่ายไฟครบ 1,000 MW ในปี 67

นางสาวจิรฐา ระบุต่อว่า ยังคงเป้าหมายกำลังการผลิตรวมแตะ 1,000 เมกะวัตต์(MW) ในปี 2567 แต่อาจจะทำได้ก่อนกำหนด หากชนะประมูลโครงโรงไฟฟ้าชุมชน-ขยะ ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งบริษัทจะเข้าประมูลโครงการเพิ่มทั้งหมด 1,100 MW มั่นใจว่าจะชนะประมูลทั้งหมด 450 - 550 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชน 350 - 400 MW และโรงไฟฟ้าขยะ 100 - 150 MW

ซึ่งหากชนะประมูลจะใช้เงินลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท โดยมาจากการทำโปรเจคไฟแนนซ์ รวมถึงออกหุ้นกู้ ซึ่งปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.5 เท่า และอยู่ระหว่างการทำเครดิตเรทติ้งจาก "ฟิทช์" คาดจะแล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือน นอกจากนี้ยังมีเงินไอพีโอเหลืออีกเกือบ 3,000 ล้านบาท

*** โบรกฯเชื่อกระทบราคาหุ้นระยะสั้นเท่านั้น เป็นโอกาสลงทุนระยะยาว 

บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า ประกาศจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ให้มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงประเด็นเข้ามากระทบชั่วคราวเท่านั้น ในระยะยาวเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน

เนื่องจากพื้นฐานการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของบริษัทยังแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง และบริษัทมีศักยภาพสูงในการบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำ และเกิดความได้เปรียบในการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าจากภาครัฐในอนาคต

ปัจจุบัน มีโครงการ VSPP จากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP 9.9 MW แต่ละโรงกำลังอยู่ในขั้นตอนระหว่าง ACE และกฟภ. ที่เตรียมกำหนดระยะเวลาการจ่ายไฟและการเตรียมสัญญา โดยคาดว่าจะทราบผลภายในไตรมาส 2/63

ขณะที่โครงการ SPP Hybrid - จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 93 MW ยังอยู่ในช่วงรอการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากกกพ. ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 1/63 ซึ่ง ACE มีความพร้อมทุกด้านและคาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในปี 65 ตามแผน

แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 5.20 บาท จากวิธี DCF  ใช้สมมติฐาน WACC ที่ร้อยละ 4.9 Risk-free rate ร้อยละ 2.2 จาก FCFF ที่ประมาณการจากโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว 13 โครงการและที่อยู่ระหว่างเจรจาอีก 19 โครงการ รวมกำลังการผลิต 411.47 MW และประเมินความน่าจะเป็นของมูลค่าของโครงการที่มีความเป็นไปได้ในอนาคต

ชื่อเสียงของผู้ถือหุ้นใหญ่ดูเหมือนจะถูกรวมเข้าไปในราคาหุ้น ACE ก่อนหน้านี้ด้วย ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงมาแรงจนไม่สนใจพื้นฐาน และเมื่อผู้บริหารออกมายืนยันว่าพื้นฐานทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่เคยเข้ามามีส่วนในการประมูลงานอีกด้วย หน้าที่ของนักลงทุนก็คือการพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า การขาดชื่อเสียงของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จะทำให้เป้าหมาย 1,000 MW ของ ACE ลำบากขึ้นมาหรือไม่ ? 

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0