โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

9 วิธีคิดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ

aomMONEY

อัพเดต 14 ต.ค. 2560 เวลา 05.31 น. • เผยแพร่ 29 ก.ย 2560 เวลา 11.58 น. • มาดามฟินนี่ Money-More-Fin
9 วิธีคิดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ
9 วิธีคิดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ

สิ่งสำคัญที่เสาหลักของครอบครัวควรมีวันนี้คือประกันสุขภาพ

ตั้งใจทำงาน ขยันหาเงินทุกช่องทาง ทำงานหนักเพื่อคนที่เรารัก เสาหลักของครอบครัวทุกคนรู้ดีว่าสิ่งที่เราทำไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเอง แต่เราทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข

แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้..จะไม่มีความหมายอะไรเลยค่ะ เมื่อเรา “ป่วย”

นี่คือเหตุผลว่าทำไมวันนี้มาดามถึงลุกขึ้นมาสะกิดให้พวกเราทั้งหลายที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพ

ขอเล่าเรื่องจริงที่เกิดกับมาดามฟินนี่ เมื่อสองปีที่แล้ว…

วันนึงมาดามคลำเจอก้อนเล็กๆ ที่ด้านข้างเต้านมซ้ายค่ะ

คุณเอ๊ย…ใครไม่เคยไม่รู้ ว่ามันทั้งช็อค ทั้งตกใจ ทั้งกลัวขนาดไหน ทั้งๆ ที่เรายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ความรู้สึกแรกคือ ถ้าเราเป็นมะเร็ง พ่อแม่เราจะอยู่ยังไง เราคือเสาหลักของครอบครัว

ตอนนั้นเงินเก็บก็ไม่มี สวัสดิการบริษัทรวมกับประกันสังคมก็คงช่วยให้เราได้รับการรักษาอย่างดีได้ยาก

มาดามนอนไม่หลับเลยค่ะ..ทำไงดี ทำไงดี

ตัดสินใจไปตรวจและโชคดีสุดชีวิตที่มันไม่ใช่เนื้อร้าย เป็นแค่ซีสต์หรือถุงน้ำในเต้านม

แต่ก็หมดค่าตรวจรักษาไปหลายพันบาท แม้จะมีประกันกลุ่มแต่วงเงินก็ไม่พอ มาดามต้องจ่ายส่วนต่างเองอีก

มาดามไม่อยากให้พวกเราเจอเหตุการณ์แบบที่มาดามผ่านมาค่ะ

มันไม่สนุก และคุณอาจไม่โชคดี

ลองจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อ “เสาหลักของครอบครัว” อย่างเราๆ เจ็บป่วยขึ้นมา

แม้แต่โรคไม่ร้ายแรงแต่เรื้อรังอย่างพวกโรคออฟฟิศซินโดรม เบาหวาน ความดัน ที่เป็นโรคยอดฮิตมันก็ยังทำให้เราทำงานได้ไม่เต็มที่เลย แถมยังมีห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อเนื่องอีกต่างหาก ไม่ต้องพูดถึงโรคร้ายแรงอย่างพวกมะเร็ง ถ้าเป็นขึ้นมาค่ารักษาอ่วมแน่

ซูเปอร์ฮีโร่, เสาหลักของครอบครัวทุกคน สำคัญที่สุดของวันนี้คือพวกเราต้องรักษาสุขภาพให้ดี

ไม่ป่วยดีที่สุด แต่ถ้าเกิดป่วยขึ้นมา ต้องไม่เดือดร้อน ครอบครัวต้องเดินต่อไปได้

มาดามขอให้หลักคิดง่ายๆ 9 ข้อนี้กับพวกเรา

9 วิธีคิดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ

1. ยอมรับก่อนว่าทุกคนมีโอกาสป่วยได้หมด ไม่ว่าตอนนี้จะแข็งแรงหรือไม่

2. ซื้อประกันสุขภาพไว้ ไม่ใช่การแช่งตัวเอง แต่เป็นการโอนความเสี่ยงเรื่องค่ารักษาออกไปจากตัวเรา

3. ลองดูประวัติครอบครัว มีโรคร้ายแรง หรือโรคที่ส่งต่อทางพันธุกรรมอะไรมั้ย

4. ลองดูสวัสดิการที่มีในมือ ทั้งที่นายจ้างมีให้ ประกันสังคมหรืออย่างอื่นที่รัฐบาลให้ว่าเพียงพอมั้ย ถ้าเราเกิดโชคร้ายต้องเจ็บป่วย

5. คนที่เป็นฟรีแลนซ์หรือเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ยิ่งต้องเช็คให้หนักว่าเรามีอะไรคุ้มครองอยู่บ้าง

6. ดูจากวิถีการดำเนินชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ ว่าเรามีโอกาสป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง

7. ดูว่าสวัสดิการที่มี เราพึงพอใจ รู้สึกปลอดภัยกับการรักษาที่จะได้รับมั้ยถ้าเกิดป่วย

8. ถ้าอยากซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม เรามีงบประมาณในการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเท่าไร

9. มองหาประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ ทั้งเรื่องโรคที่เราเสี่ยงและงบของเรา

มาดามใช้หลัก 9 ข้อนี้แหละค่ะในการเลือกทำประกันสุขภาพ

คุณพระคุณเจ้า..พอได้ทำจนรู้สึกหมดห่วงแล้ว ทำมาหากินเจริญดีมากค่ะ เพราะเราไม่ต้องกังวล!!!!

วันนี้เราดูแลตัวเองให้ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ถ้าแจ๊คพ็อตแตก เกิดป่วย มาดามไม่ต้องกังวลเลย มาดามจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ตามงบประมาณที่เราจ่ายไหว เรียกได้ว่า “จ่ายเงินน้อย เพื่อซื้อความสบายใจขนาดใหญ่”

แต่ยังไงก็ภาวนาว่าไม่ต้องใช้ผลประโยชน์เหล่านี้ และมาดามไม่เสียดายที่จ่ายเลย 555

วิธีคิดง่ายๆ เรื่องความคุ้มค่า

ยกตัวอย่างแผนประกันที่คุ้มครองโรคออฟฟิศซินโดรม โรคนี้คนเป็นเยอะมากแล้วก็ชอบไปร้านนวดเพื่อแก้อาการ แผนนี้ค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นเดือนละประมาณ 400 บาท ถ้าเราบังเอิญเป็นขึ้นมาจริงๆ ค่าเบี้ยต่อเดือนเพียงเท่านี้สามารถช่วยให้เราได้รับการรักษาอย่างดีได้

มาดามเคยเป็นหนักอยู่พักนึง ไปหาหมอกายภาพบำบัด 1 ครั้ง ค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 700 บาท และต้องไปต่อเนื่องทุกสัปดาห์

…เห็นชัดว่าค่าเบี้ยนี้คุ้มค่ารักษา!

และก็ยังถูกกว่าค่าไปนวดผ่อนคลาย 2 ชั่วโมงที่พวกเราจ่ายกันแล้วค่ะ

ถ้าวันนี้คุณอ่านแล้วเข้าใจว่าเรื่องเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และคุณคือคนสำคัญของครอบครัว

มาดามแนะว่า…ต้อง “โอนความเสี่ยง” นี้ออกไปค่ะ

มาดามเพิ่งเห็นว่า ซิกน่า เค้ามีแบบประกันสุขภาพอันใหม่เข้าท่ามากชื่อ

“แผนประกันสุขภาพมิติใหม่ ซูเปอร์แพลน” เหมาะกับซูเปอร์ฮีโร่อย่างพวกเราเลยค่ะ

มาดามชอบตรงไหนน่ะเหรอ ชอบที่มันดูเข้าใจง่าย ดูแลเราแบบครบวงจร

  • ก่อนป่วย มีสายด่วนสุขภาพ 24 ชั่วโมง ให้โทรปรึกษาปัญหาสุขภาพ เหมือนมีเพื่อนเป็นหมอ
  • เมื่อพบโรค เค้ามีเงินก้อนจ่ายให้
  • ดูแลจนหายป่วย จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง

เค้าให้แผนนี้กับคนอายุ 20-60 ปี ก็คือวัยทำงานจนถึงสูงวัย

พอพูดถึงเรื่องโรคที่คุ้มครอง ยิ่งโดนใจ เพราะคุณ “เลือกโรคที่คิดว่าอาจจะเป็นและอยากคุ้มครอง” เองได้

นั่นคือ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยสำหรับโรคที่เราไม่ต้องการค่ะ มาดามชอบตรงนี้

โรคที่คุ้มครองแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

1. โรคเรื้อรัง โรคจากไลฟ์สไตล์

  • ออฟฟิศซินโดรม, เบาหวาน, โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและทางเดินอาหาร

2. โรคร้ายแรง

  • มะเร็ง (ทุกระยะ), เนื้องอก และซีสต์

ที่เก๋ไปกว่านั้น!

ยังมีความคุ้มครองเสริมให้เลือกเติมลงไปในแผน (ตรงนี้แหละที่เลือกว่าไม่เอาก็ได้)

  • หลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด, เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

ค่าเบี้ยแบ่งตามแผน Size S, M และ L เริ่มต้นที่หลักร้อยต่อเดือน

อยากรู้เพิ่มเติม ไปที่นี่เลยค่ะ https://goo.gl/vRfaAW

9 วิธีคิดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ
9 วิธีคิดในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ

ลองใช้หลักการ 9 ข้ออย่างที่มาดามบอกเพื่อเลือกซื้อประกันสุขภาพดูนะคะ

เชื่อมาดามเถอะ เมื่อคุณสบายใจหมดห่วง การทำมาหากินของคุณจะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่เชื่อก็ลองดู

โอเคนะ

มาดามฟินนี่

บทความนี้เป็น Advertorial

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0