โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมีในปี 2019

Positioningmag

อัพเดต 19 มี.ค. 2562 เวลา 07.02 น. • เผยแพร่ 19 มี.ค. 2562 เวลา 06.57 น.

แม้คนทำงาน1 คนควรจะมี“ฮาร์ด สกิล” (Hard Skills) ซึ่งเป็นทักษะที่จะทำให้มีความเชี่ยวชาญในตำแหน่งงานหรืออาชีพนั้น แต่ทักษะสายงานตรงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการทำงานในวันนี้ ที่หลายบริษัทต้องการความสามารถที่หลากหลาย มาทำงานรวมกันร่วมกัน

นั้นก็คือ “Soft Skills” ทักษะที่ค่อย ๆ พัฒนามาจากการใช้ชีวิต การเข้าสังคม และการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะทำงานในสายงานไหนก็ตาม จึงเป็นที่มาให้JobThaiออกมาเผย 9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมีในปี 2019 เพื่อที่จะช่วยทำให้คุณกลายเป็นพนักงานที่โดดเด่นเข้าตาองค์กร

1. การบริหารเวลา(Time Management)

ทักษะการบริหารเวลาอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะคนทำงานในยุคนี้ที่ต้องเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลา ทักษะในการบริหารเวลาจึงเป็นทักษะที่สำคัญต่อคนทำงาน ซึ่งการทำงานในแต่ละวันควรมีการวางแผน ควบคุม กำหนดระยะเวลา และจัดลำดับความสำคัญของงานให้ชัดเจน เพื่อทำให้งานสําเร็จตามเป้าหมายในเวลาที่กำหนด

2. การเรียนรู้ตลอดชีวิต(Life-Long Learning)

ในปัจจุบันการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีทำให้เกิดนวัตกรรม เกิดอาชีพใหม่ ๆ ตลอดจนวิธีการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นคนทำงานจึงต้องมีการเตรียมพร้อมในการเรียนรู้อยู่เสมอ และสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้ของคนทำงานในยุคนี้คือ วิธีการอ่านจับใจความสำคัญ การสรุปประเด็น และการเชื่อมโยงข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ตลอดจนสามารถวิเคราะห์ความเหมือนและความแตกต่างจากสิ่งที่เรียนรู้มาได้

3. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

การทำงานในองค์กรหรือแม้แต่คนที่ทำงานอิสระเองนั้น ล้วนต้องมีการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นทั้งสิ้นEmotional Intelligence จึงเป็นทักษะสำคัญและส่งผลอย่างมากต่อการทำงาน เพราะคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ คือคนที่มีความสามารถในการสังเกต ทำความเข้าใจ จัดการ และแสดงออกทางอารมณ์ของตัวเองได้อย่างดี รวมถึงสังเกตและทำความเข้าใจอารมณ์ของคนอื่นด้วย ทักษะนี้จะช่วยให้คนทำงานสามารถควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์

4. ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)

โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสาร เครื่องมือและวิธีการทำงาน เป็นต้น ความสามารถในการปรับตัวและมีความยืดหยุ่นทางความคิดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยคนที่มีทักษะในการปรับตัวและเปลี่ยนมุมมองความคิดจะสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และสามารถพลิกแพลงหาวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

5. การทำงานร่วมกับผู้อื่น(Collaboration)

การทำงานทุกวันนี้เราต้องทำงานร่วมกับคนที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของสายงาน ช่วงวัย หรือรูปแบบการทำงาน องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการคนทำงานที่มีทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกันภายในทีมตัวเองและการทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ รวมไปถึงทักษะในการบริหารคนที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในคนทำงานระดับหัวหน้าอีกต่อไป แต่จำเป็นสำหรับคนทำงานในทุก ๆ ระดับ

6. การสื่อสาร(Communication)

ไม่ว่าจะทำงานในธุรกิจไหน หรือองค์กรใด แน่นอนว่าในที่ทำงานต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองาน การเสนอความคิดเห็นทั้งกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง ซึ่งการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เกิดความร่วมมือและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

7. การแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน (Complex Problem Solving)

เนื่องจากทุกวันนี้องค์กรต่าง ๆ ถูกผลกระทบจากเทคโนโลยี ตลอดจนความหลากหลายของธุรกิจ ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างไปจากอดีตและมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ทักษะการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนถูกพูดถึงกันอยู่ไม่น้อย โดยทักษะนี้ต้องอาศัยหลายทักษะย่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ระบุปัญหาและความต้องการของลูกค้า อาศัยความเข้าใจในการเชื่อมโยง และใช้ความสามารถในการอ่านบริบทของธุรกิจ ตลอดจนต้องสร้างสรรค์วิธีแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่าง ๆ ตามแต่ละสถานการณ์แล้วตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

8. การคิดเชิงวิเคราะห์และเลือกตัดสินใจ (Critical Thinking and Decision-making)

ยุคแห่งข้อมูลมหาศาลที่รอให้เข้าไปขุดค้นออกมา หรือ Big Data กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์จะช่วยให้เราสามารถย่อยข้อมูลจำนวนมากได้ โดยต้องรู้จักตั้งคำถามเชิงวิเคราะห์ ตีความ ประเมินทางเลือกและตัดสินใจ เพื่อให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุด และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือไม่มีความผิดพลาดเลย  

9. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

ความพยายามสร้างบางอย่างที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่คนทั่วไปมองเห็น ถือว่าเป็นทักษะที่มีคุณค่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่มีหลักสูตรตายตัวในการเรียน การสอน ทักษะนี้ยังเป็นการรวมเอาหลาย ๆ ทักษะย่อยไว้ด้วยกัน เช่น ช่างสังเกต อยากรู้อยากเห็น และการเปิดใจกว้าง รวมถึงการเสพข้อมูลต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่ได้ใช้ในงานศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้กับงาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ซึ่งองค์กรต่าง ๆ อยากได้คนที่มีทักษะนี้เข้าไปมีส่วนร่วมในการหยิบเอาเทคโนโลยี วิธีการทำงาน หรือแนวคิดมาใช้สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ให้องค์กรด้วย.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0