*สืบเนื่องจากค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่อยู่ในระดับสูงจนเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของคนโดยเฉพาะคนที่อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ผู้ใหญ่อย่างเราๆหายใจทีก็ยังรู้สึกแสบ อึดอัด หายใจไม่สะดวก นับประสาอะไรกับเด็กตัวเล็กๆ *
คุณรู้ไหมว่าเด็กมีอัตราการหายใจเข้าออกมากกว่าผู้ใหญ่ ด้วยร่างกายที่ตัวเล็กกว่ายิ่งทำให้เสี่ยงต่อมลภาวะทางอากาศมากกว่า หายใจเข้าออกไม่กี่ทีฝุ่นละอองก็อัดแน่นเต็มปอดไปหมด ซึ่งในระยะยาวมันจะมีผลกระทบต่อทั้งสุขภาพ สมองและพัฒนาการของเด็ก
วันนี้เราจึงมี 9 เทคนิคที่จะปกป้องลูกจากมลภาวะทางอากาศมาฝาก
1. อยู่ในบ้านหรือในอาคาร
ในช่วงนี้ที่ค่า PM2.5 อยู่ในระดับสูง คุณไม่ควรพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน งดการพาลูกไปเล่นที่สนาม หรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ออกไปเฉพาะในยามที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ไปพบแพทย์หรือไปโรงเรียน เป็นต้น
2. สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นขนาดเล็กได้
สวมใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 หน้ากากที่ว่านี้ก็คือหน้ากากอนามัย N95 ซึ่งเป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม มีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองขนาด 0.1-0.3 ไมครอน ได้ 95% เป็นอย่างน้อย
3. ทำความสะอาดบ้านให้ปลอดมลภาวะทางอากาศ
ปิดประตู หน้าต่าง ติดตั้งผ้าม่านที่มีความหนาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเขามา มั่นใจว่าสีที่ทาบ้านจะไม่ระเหยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่สูบบุหรี่ภายในบ้าน หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมสังเคราะห์ เช่น สเปรย์ปรับอากาศ เทียนหอม เป็นต้น
4. ไม่เผาขยะ
การเผาขยะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ
5. ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำจะช่วยขับสารพิษในร่างกายได้
6. งดกิจกรรมที่ต้องออกแรง
เมื่อเด็กออกแรงมากๆ เด็กก็จะหายใจเหนื่อยหอบและถี่ ทำให้ต้องสูดอากาศจากภายนอกเข้าไปมากยิ่งขึ้น
7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันของเด็กมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
8. ใช้เครื่องฟอกอากาศ
การใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยกรองสิ่งสกปรกเล็กๆ ภายในอากาศออกไป ทำให้เราสามารถหายใจได้ดีขึ้น
9. ปลูกต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน
การปลูกต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน เป็นวิธีทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาด ต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศภายในบ้านเช่น ลิ้นมังกร เยอบีร่า สาวน้อยประแป้ง ว่านหางจระเข้
อ้างอิง
